หากพูดถึงเกาะมาดากัสการ์ หนึ่งในภาพจำที่โดดเด่นที่สุดคือ “ลีเมอร์” — สัตว์หน้าตาน่ารัก ดวงตากลมโต และเป็นสัญลักษณ์ของเกาะแห่งนี้
แต่รู้ไหมว่า… ทั้งโลกมีลีเมอร์อยู่แค่ที่นี่ที่เดียว
เกาะมาดากัสการ์แยกออกจากแผ่นดินใหญ่มาเกือบ 90 ล้านปี ทำให้ธรรมชาติเกาะแห่งนี้วิวัฒนาการอย่างโดดเดี่ยว
บรรพบุรุษของลีเมอร์เชื่อว่าลอยมากับ “แพไม้ธรรมชาติ” จากแอฟริกา เมื่อราว 50–60 ล้านปีก่อน
เมื่อมาถึงแล้วไม่มีลิงหรือสัตว์นักล่าอื่น ๆ แข่งด้วย พวกมันจึงค่อย ๆ วิวัฒนาการเป็นลีเมอร์หลากหลายชนิดมากกว่า 100 สายพันธุ์ที่เราพบในปัจจุบัน
🌍 ลีเมอร์จึงเป็นเหมือน “เสียงสะท้อนจากอดีต” ของโลกยุคดึกดำบรรพ์
และมาดากัสการ์คือพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่ยังมีชีวิตอยู่
ลีเมอร์ (Lemur) หรือคนท้องถิ่นเรียกว่า Maki เป็นสัตว์ที่พบได้เฉพาะบนเกาะมาดากัสการ์เท่านั้น ชื่อ Lemur มาจากภาษาละตินแปลว่า “วิญญาณ” เพราะคนโบราณเชื่อว่าพวกมันเหมือนภูตผีที่มีตากลมโต และเคลื่อนไหวเงียบๆในยามค่ำคืน
ลีเมอร์ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในกลุ่มไพรเมต เช่นเดียวกับลิงและคนแต่ลีเมอร์อยู่ในกลุมย่อยที่เรียกว่า โปรซิเมียน (Prosimian) หรือ “ไพรเมตชั้นต่ำ” ส่วนลิงและคนเป็นแอนโทรพอยด์ หรือ “ไพรเมตชั้นสูง”
เราเข้าไปดูลีเมอร์ที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ Andasibe ซึ่งได้พบลีเมอร์ประมาณ 5 ชนิด และที่ Nosysa Park ได้พบเพิ่มเติมอีก 2 ชนิด
เราชอบบรรยากาศตอนดูที่ Andasibe มากกว่าเพราะเข้าไปในป่า ลีเมอร์ได้อยู่ในธรรมชาติจริงๆ ซึ่งต้องเดินลัดเลาะขึ้นเนิน และเดินในป่าระยะทางไม่ไกล ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ส่วนที่ Nosysoa Park ไกด์บอกว่าเป็นของเอกชน ก็น่าจะเป็นสถานที่เลี้ยงไว้ แม้จะไม่ธรรมชาตินัก แต่ที่นี่ก็ได้พบลีเมอร์ Ring-tailed Lemur กลุ่มใหญ่มาก เข้ามากินอาหาร กระโดดไป กระโดดมาบนตัวพวกเรา แบบถึงเนื้อถึงตัว
การได้ชมลีเมอร์ครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่สนุก และประทับใจอย่างคาดไม่ถึง เพราะความน่ารัก ท่าทาง ลีลาต่างๆของลีเมอร์ ทำให้เราเห็นมุมต่างๆของลีเมอร์มากกว่าภาพจากหนัง หรือในกรงสวนสัตว์
เสียงร้องที่ดังก้องของ Indri Lemur ซึ่งเป็นลีเมอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่เรากำลังยืนแหงนหน้ามองมันบนต้นไม้สูง และถ้ามันอยู่เหนือหัวเรา ก็ต้องคอยระวังว่ามันจะไม่ฉี่ หรืออึ ลงมาใส่เรา เสียงร้องค่อยๆดัง ก่อนจะมีเสียงรับจากที่ไกลๆ แล้วก็ดังก้องป่ารอบบริเวณที่เรายืนอยู่
ในกลุ่มลีเมอร์ที่เราพบ ยังมีความแตกต่างในท่าทางการเดิน บางตัวก็เดิน 4 ขาแบบลิงทั่วไปได้ แต่สายพันธ์ที่มีชื่อ Sifaka ห้อยท้ายที่เราไปเจอเช่น Diademed Sifaka หรือหลายคนเรียกว่า Golden Lemur อันมีที่มาจากขนแขนและขาที่มีสีทองส้มสดใส เหมือนใส่เสื้อคลุม และ Conquerel Sifaka ที่มีลำตัวสีน้ำตาลแดงเข้ม จะมีลีลาการเดินเหมือน “เต้นกระโดดไปด้านข้าง คล้ายเต้นรำ ก็เลยถูกเรียกรวมๆว่า “Dancing Lemur” ที่เป็นเช่นนั้นเพราะขาหลังของมันยาวกว่าขาหน้ามาก
ลีเมอร์จะมีนิสัยชอบกินใบไม้ ดอกไม้ และผลไม้ ดังนั้นเราส่งอะไรให้ก็มักจะลงมารับไปกิน และเล่นสนุกกับคน
Conquerel Sifaka ซึ่งเป็นลีเมอร์ที่เราชอบที่สุด ก็จะเลือกกินซักหน่อย เพราะเมื่อส่งแครอทให้ก็ถูกโยนทิ้ง แต่เมื่อเปลี่ยนป็นกล้วย รีบไต่ลงมารับแล้วเอาเข้าปากเคี้ยวอย่างมีความสุข มันเป็นลีเมอร์ที่นั่งอยู่เฉยๆ ท่ามกลางลีเมอร์หางแหวนที่กำลังปีนป่าย แย่งอาหารจากมือพวกเรา ไม่สุงสิงกับใคร เรารู้สึกว่าเป็นลีเมอร์ที่ introvert ดี



และลีเมอร์สายพันธ์ต่างๆ อีกหลายตัว ซึ่งมีเสน่ห์และอารมณ์ต่างๆกัน

มีขนสองสีตัดกันชัดเจน ขาวกับดำ ขนฟู ๆ รอบคอคล้าย “ปลอกคอ” หรือ “ruffed” ตัวนี้ทำงานน่าประทับ ใกล้ชิดคนดูสุดๆ ห้อยโหนสนุกสนาน

เวลาเดินมักชอบกระโดดด้านข้างเหมือนเต้นรำ




ชอบกระโดดไปมา เรียกอีกชื่อว่า Dancing lemur

Ring-tailed Lemur (ลีเมอร์หางแหวน) เป็นลีเมอร์ที่ “ดังที่สุด” เพราะมักถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของมาดากัสการ์ หน้าตาทั้งกวน และตลก







Leave a Reply