ซีอาน (Xi’an) หรือเดิมชื่อ ฉางอัน คือเมืองเอกของมณฑลส่านซี และอดีตเมืองหลวงของจีนกว่า 13 ราชวงศ์ รวมถึงราชวงศ์โจว ฉิน ฮั่น และถัง นี่คือหัวใจของอารยธรรมจีนโบราณ เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหมที่เชื่อมจีนกับโลกตะวันตกมานานนับพันปี
ตัวอักษร “ซีอาน” แปลว่า “ความสงบสุขทางทิศตะวันตก” ชื่อนี้ถูกตั้งในสมัยราชวงศ์หมิงเมื่อย้ายเมืองหลวงไปปักกิ่ง
เมืองนี้เปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต ทุกย่าน ทุกถนนล้วนมีเรื่องเล่า ประตูเมืองกำแพงโบราณ หอระฆังอันโด่งดัง ตลาดมุสลิมอันคึกคัก และเหนือสิ่งอื่นใด สุสานทหารดินเผา ซึ่งค้นพบโดยบังเอิญเมื่อปี 1974 โดยชาวนาในชนบท และกลายเป็นมรดกโลกที่สะท้อนความยิ่งใหญ่ของจิ๋นซีฮ่องเต้ จักรพรรดิองค์แรกของจีนผู้รวบรวมแผ่นดินเป็นหนึ่ง
ซีอาน: ฉางอัน เมืองหลวงของจักรพรรดิ
เมืองนี้เคยเป็นเมืองหลวงของจีนมากถึง 13 ราชวงศ์ ชื่อเดิมคือ ฉางอัน (Chang’an) ซึ่งแปลว่า “ความสงบยั่งยืน”
- ยุคแรกๆ ราชวงศ์โจวตะวันตก (ก่อนคริสต์ศักราชกว่า 3,000 ปี) ตั้งฐานที่นี่ เพราะที่ราบแม่น้ำเว่ยเหมาะแก่การเพาะปลูก และเทือกเขาฉินหลิ่งทางใต้ก็เป็นเหมือนกำแพงธรรมชาติ
- ต่อมา จิ๋นซีฮ่องเต้จากราชวงศ์ฉิน ซึ่งรวมแผ่นดินจีนเป็นหนึ่งเดียว ก็ตั้งศูนย์อำนาจไว้บริเวณนี้
- ราชวงศ์ฮั่นก็ตามมา ใช้ฉางอันเป็นเมืองหลวง สร้างระบบราชการ ถนน คูเมือง และระบบเก็บภาษีที่เป็นรากฐานจีนมาจนถึงปัจจุบัน
- พอถึงยุคราชวงศ์ถัง เมืองนี้ก็พัฒนาเป็นมหานครระดับโลก ประชากรนับล้าน ผู้คนจากเปอร์เซีย อินเดีย อาหรับ ต่างเดินทางมาค้าขายผ่านเส้นทางสายไหม ซีอานในตอนนั้นคล้าย “มหานครนิวยอร์กแห่งโลกโบราณ”
จากเมืองหลวง… สู่เมืองแห่งอดีตที่ยังมีชีวิต
แล้วทำไมเมืองหลวงถึงย้ายออก?
เพราะซีอานแม้จะมีชัยภูมิที่ดี แต่ห่างทะเล ทำให้ไม่สะดวกต่อการค้าขายในยุคที่โลกเปิดกว้าง ราชวงศ์หลังๆ อย่างราชวงศ์ซ่งและหมิงจึงย้ายเมืองหลวงไปทางตะวันออก เช่น ลั่วหยาง หนานจิง หรือปักกิ่งที่เป็นเมืองหลวงในปัจจุบัน
แต่แม้เวลาจะเปลี่ยนไป ซีอานก็ยังคงเป็น “พิพิธภัณฑ์มีชีวิต” ที่บอกเล่าอดีตของจีนผ่านหอระฆัง กำแพงเมือง ตลาดมุสลิม… และเหนือสิ่งอื่นใด คือสุสานทหารดินเผา

ซีอาน: กลับมาอีกครั้ง ครั้งที่สาม
ทริปนี้เป็นครั้งที่สามที่ฉันได้กลับมาเยือนซีอาน เมืองที่เหมือนแม่เหล็กดึงดูดผู้หลงใหลในประวัติศาสตร์และจิตวิญญาณแห่งอารยธรรม มาครั้งนี้เป้าหมายหลักคือ เขาหัวซาน (Huashan) หนึ่งในห้าภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิเต๋า ที่ว่ากันว่าเป็นทางสู่แดนเซียน ฉันตั้งใจจะพาตัวเอง “เดินเข้าไปในธรรมชาติ เพื่อเข้าใจตนเองให้ลึกกว่าเดิม”
และแม้ว่าจะเคยไป สุสานทหารดินเผามาแล้ว แต่ครั้งนี้ฉันพาเพื่อนๆไปด้วย เพื่อแบ่งปันความรู้สึกทึ่ง เมื่อได้เห็นกองทัพที่สร้างขึ้นเพื่อพิทักษ์จักรพรรดิแม้เมื่อเสียชีวิตไปแล้ว ความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายที่ยิ่งใหญ่กว่าความตายเสียอีก
เพราะซีอานไม่ได้มีแค่ “สิ่งก่อสร้างโบราณ” — แต่มีชีวิต มีจังหวะ มีอาหารอร่อย มีผู้คน และมีความลึกในประวัติศาสตร์ที่ไม่มีวันเล่าจบในครั้งเดียว
เมืองนี้ไม่ใช่แค่ “อดีต” ที่ถูกรักษาไว้ แต่เป็น “ปัจจุบัน” ที่ยังคงหายใจร่วมกับเรื่องราวของอดีตกว่าพันปี







Leave a Reply