ณ เมืองเล็ก ๆ กลางทะเลทรายแห่งหนึ่งในอิหร่าน มีสิ่งปลูกสร้างทรงกระบอกขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่กลางแดดจ้า มองเผิน ๆ มันอาจดูเหมือนหอคอยเก่าแก่ธรรมดา แต่แท้จริงแล้ว นี่คือ Pigeon Tower หรือที่ชาวพื้นถิ่นเรียกว่า Kabutar Khaneh — “บ้านนกพิราบ”
อาคารหลังนี้เป็นมากกว่ารังนกธรรมดา เพราะมันสะท้อนถึงภูมิปัญญาชาวเปอร์เซียที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติมานับพันปี ชาวเปอร์เซียนรู้ตั้งแต่โบราณว่ามูลนกพิราบนั้นคือสมบัติล้ำค่า—ใช้เป็นปุ๋ยชั้นดีสำหรับพืชพันธุ์ท่ามกลางดินแล้งและอากาศแห้งกร้านของแผ่นดินอิหร่าน ก่อนยุคที่ปุ๋ยเคมีจะถือกำเนิด พวกเขาจึงสร้าง “บ้าน” ให้ฝูงนกเหล่านี้อยู่อาศัย เพื่อเก็บเกี่ยวประโยชน์จากมูลของมันอย่างยั่งยืน
แม้จะมี Pigeon Tower อยู่ทั่วไปในอิหร่าน แต่ที่เมือง Meybod ซึ่งเราได้มีโอกาสแวะเวียนไปเยือน ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในหอที่งดงามและสมบูรณ์แบบที่สุด สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์คาร์จา (Qajar Dynasty) ซึ่งเป็นยุคที่ศิลปะและสถาปัตยกรรมของอิหร่านรุ่งเรืองงดงามพอ ๆ กับเรื่องเล่าที่เดินทางข้ามทะเลทราย

สิ่งที่น่าทึ่งคือ การออกแบบที่ชาญฉลาดของหอนกพิราบนี้ ตัวอาคารเป็นทรงกระบอกสูงใหญ่ ภายนอกฉาบผนังเรียบลื่นเพื่อป้องกันงูเลื้อยขึ้นมา ด้านบนสุดมีบ่อน้ำเล็ก ๆ วางไว้ล่อให้นกพิราบบินเข้ามาได้อย่างปลอดภัย โดยมีการออกแบบทางเข้าขนาดเล็ก เพื่อกันไม่ให้นักล่าขนาดใหญ่อย่างเหยี่ยวหรือนกอินทรีแทรกเข้ามาได้
|
|
|
พื้นด้านในทำจากหินแข็ง เพื่อป้องกันการกัดเจาะจากหนู ส่วนผนังภายในบรรจุช่องเล็กช่องน้อยนับพันช่องให้เหล่านกพิราบได้อยู่อาศัยกันอย่างอบอุ่น หนึ่งหอสามารถรองรับนกได้ถึง 4,000 ตัวเลยทีเดียว! และยังมีคนคอยดูแล ทำหน้าที่เก็บมูลนกอย่างสม่ำเสมอ นำไปใช้ประโยชน์ในการเกษตรต่อไป
ฟังดูเหมือนระบบฟาร์มที่ไม่ต้องพึ่งเทคโนโลยี แต่กลับเต็มไปด้วยความเข้าใจธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง พิสูจน์ว่าการอยู่ร่วมกับโลกใบนี้อย่างรู้คุณค่าย่อมก่อให้เกิดความยั่งยืนที่แท้จริง








Leave a Reply