ในสายตาของเราที่คุ้นเคยกับตู้เย็นทันสมัย อาจจะจินตนาการไม่ออกว่าเมื่อหลายพันปีก่อน ชาวเปอร์เซียในดินแดนอันแห้งแล้งและร้อนระอุของทะเลทราย จะมีวิธีเก็บรักษาความเย็นไว้ใช้อย่างไร โดยเฉพาะในฤดูร้อนที่อุณหภูมิอาจพุ่งสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส
แต่แท้จริงแล้ว ชาวเปอร์เซียโบราณไม่เพียงแค่เอาชีวิตรอดจากภูมิอากาศสุดขั้วเท่านั้น พวกเขายังรู้จัก “อยู่กับมัน” อย่างชาญฉลาด ด้วยสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า Yakhchāl หรือที่แปลตรงตัวว่า “หลุมเย็น” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมทางวิศวกรรมที่น่าทึ่งของโลกยุคโบราณ

หน้าหนาวในบางพื้นที่ของเปอร์เซีย เช่น แถบทางเหนือหรือบริเวณเชิงเขา อุณหภูมิตกต่ำจนแม่น้ำลำธารกลายเป็นน้ำแข็ง และแทนที่จะปล่อยให้ก้อนน้ำแข็งละลายหายไปในฤดูใบไม้ผลิ คนในยุคนั้นกลับขุด Yakhchāl ซึ่งมีลักษณะคล้ายบ่อดินขนาดใหญ่ แต่ผนังหนากว่า 2 เมตร ทำจากวัสดุธรรมชาติอย่างดินเหนียว ทราย ขี้เถ้า และฟางผสมกัน เรียกว่า sarooj ซึ่งมีคุณสมบัติกันความร้อนและกันน้ำได้ดีเยี่ยม
|
|
|
ก้อนน้ำแข็งที่เก็บมาในฤดูหนาวจะถูกนำมาเก็บไว้ใน Yakhchāl ซึ่งอยู่ใต้ดินลึก เพื่อให้อุณหภูมิต่ำคงที่ตลอดปี บางแห่งยังออกแบบให้มี windcatcher หรือ “ช่องดักลม” ด้านบน ที่ช่วยระบายอากาศและนำลมเย็นจากภายนอกเข้าไปในตัวอาคาร รวมถึงมีทางน้ำใต้ดิน (qanat) ไหลผ่านฐาน เพื่อช่วยเสริมความเย็นจากน้ำใต้พิภพอีกชั้นหนึ่ง


ทั้งหมดนี้เพื่อประโยชน์ในการเก็บรักษาอาหารสด ผัก ผลไม้ หรือแม้กระทั่งทำ “ไอศกรีมโบราณ” ไว้บริโภคในฤดูร้อน เรียกได้ว่า Yakhchāl ไม่ใช่แค่ตู้เย็น แต่คือศูนย์กลางความอยู่รอดของคนในทะเลทราย
ลองจินตนาการว่าคุณยืนอยู่ใต้โดมสูงโปร่ง ท่ามกลางอากาศร้อนแผดเผา แต่ข้างในกลับเย็นเฉียบ หยดน้ำเกาะตามผนังหนา ๆ พร้อมกลิ่นหอมอ่อนของผลไม้ตากแห้งที่แขวนเรียงราย — เป็นประสบการณ์ที่พิสูจน์ว่า มนุษย์สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างงดงาม ถ้ารู้จักฟังและเรียนรู้จากมัน







Leave a Reply