วันนี้เป็นอีกวันของการเดินทางระหว่างเมือง จาก คีวา (Khiva) ไป บุคคารา (Bukhara) ด้วยรถไฟ ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมงครึ่ง เดิมทีตั้งใจจะเหมารถแท็กซี่ไปเพื่อความสะดวก แต่หลังจากตะลุยเที่ยวป้อมกลางทะเลทรายมาสองวันเต็ม เริ่มรู้สึกว่า ต้องประหยัดหน่อย ค่าแท็กซี่ 70 ดอลลาร์ ฟังดูแพงเมื่อเทียบกับค่ารถไฟแค่ 300 กว่าบาท ประหยัดไปหลายเท่า แถมยังได้สัมผัสการเดินทางแบบโลคอลอีกด้วย
ตั๋วรถไฟในนาทีสุดท้าย
รถไฟที่ได้นั่งเป็น ชั้นสอง และได้ที่นั่งเป็น เตียงนอนชั้นบน ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ก็เป็นสิ่งที่เหลืออยู่เพราะซื้อตั๋วค่อนข้างกระชั้นชิด
เช้านี้ คาเมล (Kamel) เจ้าของที่พักในคีวาอาสาขับรถมาส่งที่สถานีรถไฟ ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก แต่ต้องรีบตื่นตั้งแต่ 6:10 น. เพื่อกินอาหารเช้า คาเมลบอกว่าช่วงนี้ คนไทยมาเยอะมาก เดือนนี้มีถึง 7 คนแล้ว น่าจะเพราะที่พักของเขาได้รีวิวดีมากถึง 9.9 คะแนน เราเองก็เลือกพักที่นี่เพราะรีวิวดี และก็ไม่ผิดหวัง
อาหารเช้าที่นี่ถูกใจมาก โดยเฉพาะ กิมจิแครอท และ มะเขือยาวดอง ที่ช่วยแก้เลี่ยนจากอาหารมัน ๆ ของอุซเบกิสถานได้ดี อิ่มท้องก่อนออกเดินทาง
อลหม่านที่สถานีรถไฟ
พอมาถึงสถานีรถไฟ สิ่งแรกที่เจอคือ หาคนเข้าใจภาษาอังกฤษยากมาก จนต้องเดินไปเคาะประตูถามเจ้าหน้าที่เอง เขาดูตกใจเหมือนกันที่เราเข้าไปถามตรง ๆ แต่สุดท้ายก็พยายามเรียกคนที่พูดอังกฤษได้มาช่วย
ปรากฏว่า รถไฟขบวนที่จอดอยู่ตรงนั้นแหละคือขบวนที่ต้องขึ้น แต่เจ้าหน้าที่กลับบอกให้รอที่ แพลตฟอร์ม 1 และให้ขึ้นตอน 8:00 น. เราก็เลยคิดว่าอาจจะเป็นขบวนถัดไป
แต่พอ 8 โมงกว่า รถไฟขบวนเดิมยังจอดอยู่ ก็เริ่มเอะใจ เลยเดินกลับไปถามเจ้าหน้าที่อีกที คราวนี้เขาบอกว่า ขึ้นได้แล้ว! ถ้าไม่เดินไปถามอีกที คงรอจนขบวนนี้ออกไปเฉย ๆ เพราะดูแล้ว ไม่มีใครมาตามผู้โดยสารเลย
รถออกตรงเวลา และหยุดจอดนานที่อูร์เกนช์
รถไฟออกตรงเวลา และไม่นานก็มาถึง อูร์เกนช์ (Urganch) ซึ่งเป็นจุดแวะพักใหญ่ รถจอดอยู่นานพอสมควร เป็นช่วงที่ผู้โดยสารบางส่วนขึ้นลง
ระหว่างนั่งไปเพิ่งสังเกตเห็นว่า มีผ้าปูที่นอนให้ด้วย แต่ด้วยความเหนื่อยและอากาศที่ร้อนจนไม่มีอารมณ์จะจัดที่นอน เลยเลือกจะล้มตัวลงนอนแบบนั้นไปเลย
7 ชั่วโมงกลางทะเลทราย กับคลื่นความร้อน
ขึ้นมาบนรถไฟได้แล้ว แต่นี่ไม่ใช่การเดินทางที่สบายเลย เพราะ ไม่มีแอร์ และวันนี้ดันเป็นวันที่เกิด คลื่นความร้อน อากาศที่เคยร้อนอยู่แล้วกลับร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว พยากรณ์อากาศบอกว่าวันนี้ช่วงบ่ายจะขึ้นสูงถึง 38 องศา แล้วอีกสองวันข้างหน้าจะลดลงไปอยู่แถว 13-15 องศาอีกครั้ง ถ้าต้องเดินเที่ยวกลางแจ้งคงแย่แน่ ๆ อย่างน้อยวันนี้ยังได้นั่งรถไฟ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่
ปกติถ้านั่งรถไฟที่ไม่มีแอร์ การเปิดหน้าต่างให้ลมพัดผ่านเข้ามาน่าจะช่วยได้บ้าง แต่ วันนี้ลมที่พัดเข้ามาไม่ใช่ลมเย็น มันเป็น ลมร้อนแห้ง จาก ทะเลทรายคีซิลคุม (Kyzylkum Desert) แถมยังพาฝุ่นเข้ามาด้วย ทำให้ต้องปิดหน้าต่างแทบทั้งขบวน ร้อนก็ร้อน ตัวก็เหนียวไปหมด เพราะฝุ่นละเอียดเกาะตามตัวแบบเลี่ยงไม่ได้
รถไฟขบวนนี้คนเต็มทุกที่นั่งและทุกเตียง ทำให้เราที่ได้ที่นั่งเป็น เตียงนอนชั้นบน ต้องเบียดตัวอยู่บนนั้นไปก่อน ซึ่งไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ เพราะการปีนขึ้นลงบ่อย ๆ บวกกับอากาศร้อน ๆ แบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ผ่านไปหลายสถานี ผู้โดยสารบางส่วนทยอยลงไปบ้าง ทำให้พอมีพื้นที่ให้ลงมานั่งข้างล่างเป็นระยะ ได้เปลี่ยนอิริยาบถบ้างก็ยังดี
พอรถไฟหยุดจอดตามสถานีต่าง ๆ บรรยากาศกลับยิ่งร้อนอบอ้าวกว่าเดิม เพราะไม่มีลมพัดผ่านเลย รู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผ่เข้ามาจากทุกทิศทาง ตอนนี้แค่คิดถึงการได้อาบน้ำเย็น ๆ ก็แทบจะเป็นความสุขที่สุดแล้ว
ถึงบุคคารา: พักผ่อนและจัดเต็มเรื่องอาหาร
รถไฟถึงบุคคาราช้ากว่ากำหนดเล็กน้อย แต่โชคดีที่นัดให้โรงแรมมารับ ซึ่งคุ้มค่ามากเพราะระยะทางค่อนข้างไกล ค่ารถ 50,000 ซอม (ประมาณ 150 บาท) ถือว่าไม่แพง แถมรถเปิดแอร์เย็นฉ่ำ คนที่มารับคือ ราซูล สามีของเจ้าของที่พัก
ถึงโรงแรม จ่ายค่าห้อง 50 ดอลลาร์ พร้อมค่ารถ แต่ได้ทอนกลับมา 5,000 ซอม จากนั้นก็มุ่งหน้าออกไปหาอะไรกิน เพราะ 7 ชั่วโมงบนรถไฟไม่ได้กินอะไรเลย!
มื้อนี้จัดเต็มแบบสุด ๆ เพราะหิวจนแทบทนไม่ไหว
- ร้านแรก: Ayvan ร้านอาหารสวย บรรยากาศดี จัด สเต็กปลาแซลมอน ไปหนึ่งจาน อร่อยมาก
- ร้านสอง: กินไอศกรีมอีก 3 ลูก แต่ก็ยังรู้สึกไม่หนำใจ
- ร้านสาม: ไปต่อ สปาเกตตีคาโบนารา คราวนี้แน่ใจว่าจุกจนเดินไม่ไหวแล้ว
บุคคารา…แต่ทำไมยังไม่เห็นมินาเร็ต?
ก่อนมา บุคคาราในจินตนาการคือเมืองแห่งสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ และแน่นอนว่าอยากเห็น มินาเร็ตสูงตระหง่าน ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง แต่พอมาถึง ยังไม่เห็นแม้แต่เงา อาจจะต้องรอสำรวจพรุ่งนี้
โชคดีที่ที่พักนัดอาหารเช้าไว้ 9 โมง ถือเป็นข้อดีมากเพราะได้พักผ่อนเต็มที่ก่อนออกไปสำรวจเมือง
พรุ่งนี้คงได้เริ่มต้นสำรวจเมืองจริง ๆ แล้ว หวังว่าบุคคาราจะเป็นอีกเมืองที่สร้างความประทับใจเหมือนกับที่คีวาทำไว้!






Leave a Reply