Nim Journey

A Legend of Travel

วันแรกใน Tashkent เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน แต่ก็ไปต่อได้เสมอ
Posted in , , ,

การผ่าน ตม.นั้นราบรื่นดี แต่การเดินทางครั้งนี้ยังเริ่มต้นด้วยอุปสรรคเล็ก ๆ น้อย ๆ ตั้งแต่ที่สนามบิน เครื่องแลกเงินเสีย ห้องแลกเงินปิด โชคยังดีที่ร้านขายซิมการ์ดเปิดให้บริการและยินดีรับบัตรเครดิต มีให้เลือกสองค่ายคือ Ucell และ Beeline ได้ข้อมูลมาว่า Ucell สัญญาณดีกว่า จึงเลือกค่ายนี้

เมื่อได้ซิมและเบอร์โทรแล้ว ขั้นต่อไปคือลงทะเบียนเพื่อเรียกรถผ่าน Yandex Go แต่กลับไม่สามารถผูกบัตรเครดิตเพื่อจ่ายค่าโดยสารได้ เพราะไม่มีเงินสกุล Som ในระบบ เมื่อล้มเหลวทางดิจิทัล ก็ต้องกลับสู่แนวทางดั้งเดิม—เดินออกไปเจรจากับแท็กซี่เอง

เช็คในแอป Yandex Go ราคาจากสนามบินไป Hotel Uzbekistan อยู่ที่ 26,000 Som (ประมาณ 2.5$) แต่แท็กซี่สนามบินเปิดราคาที่ 8$ ซึ่งสูงไปหน่อย เลยเดินออกจากอาคารมาพบกับกลุ่มแท็กซี่ด้านนอก ที่เสนอราคา 5$ ก็ตกลงไปเลย นั่งรถประมาณ 15 นาที ก็มาถึง ใจกลาง Tashkent


Hotel Uzbekistan – สัญลักษณ์แห่งยุคโซเวียต

ที่พักของฉันในคืนนี้ไม่ใช่โรงแรมหรูหราสมัยใหม่ แต่เป็น “Hotel Uzbekistan” โรงแรมเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว และเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่สำคัญของทาชเคนท์

เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1974 ในช่วงที่อุซเบกิสถานยังเป็นส่วนหนึ่งของ สหภาพโซเวียต โรงแรมแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ต้อนรับเจ้าหน้าที่รัฐบาล นักการทูต และแขกพิเศษจากมอสโก เป็นตัวแทนของ ยุคทองแห่งการพัฒนาเมือง หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 1966

โครงสร้างและสถาปัตยกรรมของโรงแรมสะท้อนแนวคิดแบบ Brutalist และ Soviet Modernism ซึ่งเป็นสไตล์ยอดนิยมในยุคคอมมิวนิสต์ ภายนอกเป็นอาคารทรงโค้งที่โดดเด่น มีลวดลายเรขาคณิตที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะอิสลาม ล้อไปกับสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของอุซเบกิสถาน

ภายในยังคงกลิ่นอายของอดีต เพดานสูง พื้นหินอ่อน เฟอร์นิเจอร์ไม้แกะสลัก ห้องพักบางห้องยังมีพรมลวดลาย Soviet Oriental ให้อารมณ์แบบยุค 70s อย่างเต็มที่

โรงแรมอยู่ตรงจัตุรัส Amir Timur ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของเมือง ใกล้ Tashkent Chimes (หอนาฬิกาเก่าแก่) และ Broadway Street (Sayilgoh Street) สามารถเดินไปเชื่อมต่อกับ สถานีรถไฟใต้ดิน Amir Timur Square ที่มีชื่อเสียงว่าตกแต่งสวยงาม

แม้จะเป็นโรงแรมเก่า แต่เสน่ห์ของมันอยู่ที่เรื่องราวและประวัติศาสตร์ มากกว่าสิ่งอำนวยความสะดวกหรูหรา

ย้อนเวลาสู่ยุค 70: เช็คอินที่ Hotel Uzbekistan

ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไปใน Hotel Uzbekistan ความรู้สึกเหมือนเดินผ่านประตูแห่งกาลเวลาเข้าสู่ยุค 70 พื้นหินอ่อนสีขาวขัดเงาสะท้อนแสงไฟจาก โคมระย้าขนาดมหึมา ที่แขวนอยู่กลางล็อบบี้ มันเป็นโคมไฟที่ให้ความรู้สึกทั้งหรูหราและคลาสสิกในแบบยุคโซเวียต ให้บรรยากาศเคร่งขรึมแต่ก็เต็มไปด้วยเสน่ห์แบบที่หาไม่ได้จากโรงแรมโมเดิร์นทั่วไป

ด้านขวาของฉันเป็น เคาน์เตอร์เช็คอินหินอ่อนสีขาวเทา ที่ทอดตัวยาว พนักงานในชุดยูนิฟอร์มคลาสสิกกำลังขะมักเขม้นกับการต้อนรับแขกคนก่อนหน้า ขณะที่ฉันยืนรอคิวอยู่ ฉันอดไม่ได้ที่จะสังเกตนาฬิกาติดผนังด้านหลังเคาน์เตอร์ที่บอกเวลาของเมืองสำคัญทั่วโลก เหมือนฉันอยู่ในศูนย์กลางของเครือข่ายนักเดินทางข้ามทวีปแบบสมัยก่อน

ฉันเลือกเดินไปนั่งที่ ชุดรับแขกหน้าเคาน์เตอร์ โซฟากำมะหยี่ลายดอกที่ดูแน่นหนาและหนักแน่น ราวกับถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ชั่วนิรันดร์ พื้นหินอ่อนช่วยเพิ่มความรู้สึกสงบ ขณะที่บริเวณรอบ ๆ มีแขกบางคนกำลังนั่งจิบกาแฟ สนทนากันเบา ๆ บรรยากาศทั้งหรูหราและอบอุ่นในแบบของมันเอง

อีกฟากหนึ่งของล็อบบี้เป็น ห้องอาหารขนาดใหญ่ ปูพื้นด้วยพรมแดงลายมีลายดอกเล็กๆ ผนังโค้งถูกตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคสีน้ำเงินและขาวแบบอาหรับ-เปอร์เซีย ยังคงให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในฉากภาพยนตร์ย้อนยุค โต๊ะกลมขนาดใหญ่ถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ พร้อมเก้าอี้กำมะหยี่สีแดงที่ดูหรูหราและเป็นทางการ ทุกอย่างทำให้ฉันอดจินตนาการไม่ได้ว่าที่นี่อาจเคยเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงของเจ้าหน้าที่ระดับสูง หรือแม้แต่การประชุมที่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียดของยุคสงครามเย็น มีแขกมานั่งทานอาหารอยู่ประปราย แต่พรุ่งนี้เช้าฉันจะได้ทานอาหารเช้าที่ห้องนี้

เดินลึกเข้าไปอีกนิด ฉันพบ คาเฟ่เล็ก ๆ อยู่ริมกระจกด้านข้างล็อบบี้ บรรยากาศเงียบสงบ มีเคาน์เตอร์ไม้ขนาดเล็ก พร้อมทั้งตู้แช่เครื่องดื่ม น้ำอัดลม มีตู้ไอศกรีม และขนมแท่งธรรมดาๆ ที่หาได้ทั่วไปวางขายแบบง่ายๆ โต๊ะและเก้าอี้ไม้ถูกจัดเรียงอย่างเรียบง่าย กลุ่มนักท่องเที่ยวที่ดูเหมือนมาด้วยกันแบบครอบครัว นั่งทานน้ำอัดลม ขนม คล้ายรอเวลาให้แดดข้างนอกอ่อนแสงอีกนิด จึงจะออกไปเที่ยวกันต่อ ขณะที่ทีวีจอเล็กที่ติดอยู่ตรงมุมห้องเปิดอยู่ แต่ดูเหมือนไม่ได้รับความสนใจจากใครเลย ฉากนี้ให้ความรู้สึกเหมือนฉันเป็นตัวประกอบในภาพยนตร์โซเวียตเรื่องหนึ่ง

และสุดท้าย จุดที่ดึงดูดสายตาของฉันมากที่สุดคือลิฟต์เก่าที่อยู่ถัดไป มันมีประตูโลหะที่ดูแข็งแรงแต่เต็มไปด้วยร่องรอยของกาลเวลา ฉันยืนจ้องมันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกดปุ่ม พร้อมภาวนาให้มันยังทำงานได้อย่างราบรื่น ไม่มีเสียงกึกกักหรือหยุดกลางทางให้ฉันได้สัมผัสประสบการณ์ติดอยู่ในลิฟต์ของยุคอดีต! ทุกสิ่งที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนฉันไม่ได้มาเช็คอินโรงแรมธรรมดา แต่กำลังเช็คอินเข้าสู่ ห้วงเวลาแห่งอดีต ที่ยังคงมีชีวิตอยู่

ฉันอดไม่ได้ที่จะอมยิ้มให้กับเสน่ห์ของ Hotel Uzbekistan ที่นี่อาจไม่ใช่โรงแรมหรูหราที่สุดหรือทันสมัยที่สุด แต่กลับเป็นโรงแรมที่ให้ประสบการณ์ไม่เหมือนที่ไหน เป็นที่ที่ทำให้ฉันได้รู้สึกถึงยุคสมัยที่เคยรุ่งเรือง ได้สัมผัสอดีตที่ยังคงฝังแน่นอยู่ในผนังทุกด้าน และทำให้ฉันอดคิดไม่ได้ว่า… ฉันกำลังเดินอยู่ในฉากของประวัติศาสตร์จริง ๆ หรือเปล่า?

ห้องพัก Hotel Kazakstan

เมื่อฉันเปิดประตูเข้ามาในห้องพัก ความรู้สึกเหมือนย้อนยุคก็ยังคงตามติดมาไม่ห่าง ห้องพักของฉันอยู่ฝั่งด้านหน้าโรงแรม และสิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือ ผ้าม่านสีแดงเข้ม ที่ปกคลุมหน้าต่างบานใหญ่ ผ้าม่านหนาหนักที่ทำจากผ้ากำมะหยี่ถูกจับจีบเรียงกันเป็นระเบียบ เนื้อผ้าหนาและเงาวาวเล็กน้อยพอให้แสงแดดลอดผ่านออกมาเป็นเส้นริ้วบาง ๆ มันเป็นลายเดียวกับ หัวเตียงไม้บุผ้า เสริมความรู้สึกเข้มขรึมและคลาสสิก ขณะที่ ผ้ารองเตียง ก็ใช้ลายเดียวกันกับผ้าม่าน ห้องพักได้รับการออกแบบมาอย่างดี แต่ห้องนี้กลับประหลาดตรงที่มีเสาใหญ่มาบังอยู่ตรงหน้าทางเข้าห้องน้ำ

มองผ่านหน้าต่างจากห้อง วิวเบื้องหน้าคือสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่แผ่กว้างสุดสายตา พื้นที่สีเขียวชอุ่มของต้นไม้ที่เรียงรายเป็นแนวรับแสงแดดยามบ่ายอย่างสง่างาม และที่ใจกลางของสวน ฉันมองเห็น อนุสาวรีย์ Amir Timur ตั้งตระหง่านเป็นจุดศูนย์กลางของทัศนียภาพทั้งหมด น่าเสียดายที่วิวนี้ถูกบดบังจากเสา ผนังที่เป็นโครงสร้างของตึก กลายเป็นช่องเล็กๆ หลายช่อง ถ้าจะเห็นวิวที่เปิดกว้างคงต้องขึ้นไปดูที่ชั้น 17 ซึ่งเป็นจุดชมวิวมุมสูงของเมือง

แม้ห้องพักจะไม่ใช่ห้องหรูหราแบบโรงแรมห้าดาวที่เพียบพร้อมไปด้วยความเงางามของยุคใหม่ แต่กลับเต็มไปด้วยเสน่ห์ของกาลเวลาที่ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังใช้ชีวิตในอีกยุคหนึ่ง

ภารกิจแรก – หาเงิน som ให้ได้ก่อน!

เมื่อเช็คอินเสร็จ รู้สึกว่าปัญหา “ไม่มีเงินท้องถิ่น” กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา เพราะแม้แต่ร้านแลกเงินในโรงแรมยังปิด ต้องออกไปเดินหาแลกเงินเอง หวังว่าจะได้เรทดี ๆ ในร้านแลกเงินแถวตลาดในเมือง แต่เดินไปไกลเท่าไรก็หาร้านแลกเงินไม่เจอ สุดท้ายก็ต้องกลับมาแลกที่โรงแรมนั่นแหละ ซึ่งร้านกลับมาเปิดให้แลกเงินช่วงบ่าย ได้เรทมาตรฐาน 1 USD = 11,340 Som แต่ก็ดีตรงที่ไม่มีค่าธรรมเนียม ฉันแลกไป 100 USD ได้มาเป็นล้าน Som! กลายเป็นเศรษฐีเงินล้านของอุซเบกิสถานไปโดยปริยาย

ก่อนออกเที่ยว ขึ้นไปชมวิวบนชั้น 17 ซึ่งเป็นดาดฟ้าและร้านอาหารของโรงแรม มองลงมาเห็นเมืองทาชเคนท์กว้างไกลสุดสายตา บรรยากาศคลาสสิกสมกับที่เป็นโรงแรมเก่าแก่ที่เคยต้อนรับผู้นำและแขกบ้านแขกเมืองนับไม่ถ้วน

จตุรัส Amir Timur อยู่ฝั่งตรงข้าม Hotel Uzbekistan
อนุสาวรีย์ Amir Timur กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ชาวอุซเบกิสถาน นำมาสร้างเป็นวีรบุรุษ ความภาคภูมิใจ และความเป็นหนึ่งเดียวของชาติหลังสิ้นสุดยุคโซเวียต

จตุรัส Amir Timur และค่ำคืนที่เต็มไปด้วยรสชาติ

ระหว่างเดินเล่นรอบ จัตุรัส Amir Timur เจอเด็ก ๆ กลุ่มหนึ่งเข้ามาทักทาย ขอฝึกภาษาอังกฤษกันอย่างสนุกสนาน เห็นได้ชัดว่าที่นี่ผู้คนเป็นมิตรและสนใจเรียนรู้ภาษาใหม่ ๆ

พอเริ่มหิว ตัดสินใจลองร้าน Ugolok (Corner) ที่คนมุงกันทั้งในร้านและนอกร้าน ฉันพยายามใช้แอปช่วยแปลภาษา เพราะส่วนใหญ่คนที่นี่ไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ นอกจากภาษาอุซเบค และภาษารัสเซีย แต่สุดท้ายก็พบว่าการสื่อสารแบบใช้ภาษากายและรอยยิ้มยังเป็นสิ่งที่ดีที่สุด สั่งไก่อบที่เสิร์ฟมาพร้อมขนมปัง น้ำราด และสลัดผักสด แตงกวา มะเขือเทศ รสชาติอร่อยเกินคาด กลิ่นหอมเครื่องเทศกำลังดี จบวันแรกอย่างหมดพลังจากการเดินทางและการเดินหาแลกเงิน กลับมาที่พัก นั่งดูรูปถ่าย พบว่ามีหลายภาพที่ต้องปรับแก้ พร้อมกับวางแผนการเดินทางสำหรับวันพรุ่งนี้

สรุป วันแรกใน Tashkent: เสน่ห์แห่งอดีตและปัจจุบัน

แม้จะเริ่มต้นด้วยอุปสรรคเล็กน้อย แต่วันแรกใน Tashkent ก็เต็มไปด้วยเรื่องราวและประสบการณ์ที่น่าจดจำ ฉันได้สัมผัสกับเสน่ห์ของเมืองนี้ เรียนรู้วิธีเดินทาง สำรวจการแลกเงิน และได้ลิ้มลองรสชาติของอาหารท้องถิ่นในร้านที่ให้บรรยากาศราวกับโรงอาหารในยุคสหภาพโซเวียต ทุกอย่างล้วนเป็นประสบการณ์ใหม่ที่เต็มเติมการเดินทางครั้งนี้

Tashkent เป็นเมืองที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันลึกซึ้ง และฉันสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณแห่งอดีตที่ยังคงหลงเหลืออยู่ อนุสาวรีย์ Amir Timur ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง ดั่งสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจของชาวอุซเบกิสถาน รายล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมยุคโซเวียตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตึกอาคารขนาดใหญ่ เคร่งขรึม และทรงพลัง บางมุมดูงดงามในแบบของมันเอง ขณะที่บางจุดก็เผยให้เห็นความดิบและเงามืดของยุคนั้น

การเข้าพักที่ Hotel Uzbekistan ยิ่งช่วยเติมเต็มบรรยากาศให้สมบูรณ์ขึ้น ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงโรงแรมเก่าแก่ แต่ยังเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของ Tashkent และเป็นภาพแทนของยุคโซเวียตที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้ โรงแรมแห่งนี้เป็นดั่งหน้าต่างที่เปิดให้เห็นช่วงเวลาในอดีต ทั้งโครงสร้างที่โอ่อ่าและกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ที่แฝงอยู่ในทุกมุมห้อง

วันแรกของฉันใน Tashkent คือการเดินทางข้ามกาลเวลา ระหว่างอดีตและปัจจุบัน เมืองนี้มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง และฉันตั้งตารอที่จะได้ค้นพบเรื่องราวอีกมากมายในวันต่อไป

พรุ่งนี้… พร้อมออกเดินทางไปสำรวจทาชเคนท์ ให้มากกว่านี้!

Leave a Reply

เว็บนี้ใช้ Akismet เพื่อลดสแปม. เรียนรู้ว่าข้อมูลแสดงความเห็นของคุณถูกประมวลผลอย่างไร.

สมัครเป็นสมาชิก

Enter your email below to receive updates.