Nim Journey

A Legend of Travel

Stopover สั้นๆที่อัลมาตี้
Posted in , , ,

ใช้เวลาบิน 7 ชั่วโมง มาถึงคาซัคสถานในเวลาท้องถิ่น 16.00 น. ซึ่งช้ากว่าไทยเพียง 1 ชั่วโมง ฉันเดินออกมาเป็นกลุ่มแรกๆ ใช้เวลาต่อคิวพร้อมตรวจสอบในแถวตม. แล้วรับกระเป๋าเรียบร้อยในเวลาไม่นานนัก ก็ออกมาพบคนขับรถที่ถือป้ายชื่อรออยู่ด้านนอก ทว่ายังต้องรอผู้โดยสารอีกสองคนที่เดินทางมาในเที่ยวบินเดียวกัน ซึ่งดูเหมือนต่อจากฉัน ผู้โดยสารคงจะหนาแน่น จนต้องใช้เวลารออีกพักใหญ่ ระหว่างนั้นมีแท็กซี่เข้ามาถามไถ้ แต่เมื่อปฏิเสธพวกเขาก็ไม่ได้ตื๊ออะไร ให้ยุ่งยากใจ

ผู้ร่วมเดินทางอีกสองคนเป็นผู้หญิงที่แวะมา stopover เช่นกัน แต่พวกเธอจะบินไปจอร์เจียต่อในวันรุ่งขึ้นตอนค่ำ เราใช้เวลาประมาณ 45 นาทีเดินทางจากสนามบินไปยังที่พัก ฉันเลือกพักที่ Hotel Kazakhstan โรงแรมเก่ากลางใจเมือง ที่นี่เองถึงได้พบชายหนุ่มหน้าตาดีของคาซัคสถานครั้งแรก—พนักงานเช็คอิน 😁

อากาศและบรรยากาศเมือง

เมื่อฟ้าเริ่มมืด อุณหภูมิลดลงเรื่อย ๆ จาก 18 องศาเซลเซียสในตอนมาถึง เมืองอัลมาตี้ดูเงียบเหงากว่าที่คาดไว้ ท้องฟ้าหม่นหมอง ถนนใจกลางเมืองแม้มีรถสัญจรไปมาไม่ขาดสาย แต่ก็ยังให้ความรู้สึกโล่งเกินไป ผังเมืองยังคงกลิ่นอายยุคโซเวียต ถนนกว้างขวาง อาคารใหญ่โต แม้จะมีอาคารแบบใหม่ให้เห็นบ้าง แต่ก็ยังมีกลิ่นอายของเมืองในยุคเก่าซ่อนตัวอยู่ ทำให้มองเห็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน

อาหารมื้อค่ำ

ฉันเลือกทานอาหารที่ร้านใกล้โรงแรม หรือจะเรียกว่าเป็นร้านของโรงแรมเลยก็ว่าได้ บรรยากาศ สลัวๆ แต่อบอุ่นเป็นกันเอง แม้ว่าพนักงานส่วนใหญ่จะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ก็พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่

มื้อนี้สั่ง Beef Udon อาหารถูกจัดจานมาอย่างประณีต เนื้อวัวนุ่มชุ่มฉ่ำ พร้อมกุ้งหลายตัว รสชาติออกหวานนิด ๆ เส้นอุด้งเหนียวนุ่มพอดี โดยรวมถือว่าอร่อย ร้านนี้เน้นอาหารเอเชียเป็นหลัก มีโชว์ปรุงอาหารในตู้กระจกกลางร้าน สร้างบรรยากาศที่คึกคัก ลูกค้าเข้ามาเรื่อย ๆ ไม่ขาดสาย

หลังมื้อค่ำ ออกเดินสำรวจบริเวณรอบโรงแรม พบว่ามีร้าน Starbucks, Burger King, โรงแรม Novotel, โบสถ์ และอนุสาวรีย์ แต่ซุ้มขายของเล็ก ๆ รอบ ๆ กลับปิดหมด อาจเป็นเพราะยังไม่ถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิเต็มที่

ค่ำคืนนี้มีหมอกหนา ฝนปรอยเบา ๆ ผู้คนในเมืองส่วนใหญ่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีดำ ทำให้บรรยากาศดูขึงขัง เย็นเยียบ ร้านค้าสมัยใหม่ที่เห็นตอนกลางวันดูเลือนหายไปท่ามกลางแสงไฟสลัว หากเป็นยุคสหภาพโซเวียต เมืองคงเงียบเหงาจนไม่น่าเดินเล่นในช่วงเวลานี้

ก่อนกลับห้อง ฉันคิดจะหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทางในทาชเคนท์ แต่สุดท้ายก็ปล่อยให้ตัวเองได้นอนพักผ่อนแทน

เช้าที่อัลมาตี้

ตื่นขึ้นมาพร้อมอากาศเย็นสดชื่น อุณหภูมิภายนอกเพียง 3 องศา เตียงนุ่มอุ่นสบายจนไม่อยากลุกขึ้น แต่เมื่อแสงแดดสาดส่อง เมืองที่เคยเงียบเหงาในคืนก่อนกลับดูมีชีวิตชีวาขึ้นทันตา ฉันต้องรีบสะบัดผ้าห่ม ลุกขึ้นไปทานอาหารเช้า แล้วใช้เวลาที่เหลืออีกไม่มากกับอัลมาตี้ ออกไปเดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์ก่อนเดินทางต่อ

อาหารเช้าที่โรงแรมมีให้เลือกหลากหลายมาก ส่วนใหญ่เป็นขนมปังแบบตะวันตก ฉันยังดูไม่ออกว่าในไลน์อาหารนั้น มีสิ่งใดที่เป็นอาหารคาซัคบ้าง รสชาติค่อนข้างธรรมดา แต่บรรยากาศของโรงแรมก็หรูหราทีเดียว

ฉันเดินตามป้าสวมผ้าคลุมศีรษะสไตล์รัสเซียที่เรียกว่า “บาบุชก้า” ผู้คนรอบตัวของฉันมีทั้งหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งเดินฉับ ๆ คล่องแคล่วสวนมา เด็กหนุ่มปั่นจักรยานไปตามถนนที่เต็มไปด้วยรถเมล์ รถยนต์ และรถราง เช้านี้มี E-motor จอดเรียงรายรอคนใช้งาน แต่หลายคนเลือกเดินเล่นอาบแดดมากกว่าจะใช้พาหนะนั้น

ฉันเพิ่งสังเกตเห็นเส้นเคเบิลพาดผ่านข้ามเมือง ตึกที่ฉันสงสัยเมื่อวานคือสถานีขึ้นเคเบิลคาร์ที่จะนำพาขึ้นไปชมเทือกเขาเทียนซาน และวิวเมืองจากมุมสูง แต่น่าเสียดายที่เวลาของฉันที่อัลมาตี้มีน้อยเกินไป

เมื่อวานเคเบิลคาร์ปิดและสภาพอากาศไม่ดี เช้านี้แม้แดดจะสดใส แต่ก็ถึงเวลาต้องกลับโรงแรมเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปสนามบิน มุ่งหน้าสู่ทาชเคนท์ ปลายทางต่อไปของการเดินทาง

เรื่องตื่นเต้นก่อนไปสนามบิน

9.30 น.แล้ว รถรับส่งสนามบินไม่มารับตามนัด ทั้งที่ย้ำนักย้ำหนาไปแล้วเมื่อวานนี้ตอนที่มาส่งที่โรงแรม พนักงานขับรถก็ตอบรับ “โอเค โอเค” แต่คงเป็นเพียงคำตอบเพื่อให้พ้น ๆ ไปมากกว่าจะเป็นการตกลงอย่างแท้จริง ดีเหลือเกินที่ไม่ได้ให้ทิปไป สุดท้ายฉันต้องแก้ปัญหาโดยการหารถให้ไปส่งเอง

ฉันให้พนักงานโรงแรมช่วยเรียกผ่านapp Yandex Go แทนการใช้บริการรถของโรงแรมที่คิดค่าบริการถึง 15$ แต่ค่าแท็กซี่ที่เรียกผ่านแอปฯ อยู่ที่ประมาณ 3$ แต่เนื่องจากฉันไม่สามารถลงทะเบียนกับแอป ด้วยเบอร์โทรศัพท์ของไทย จึงต้องฝากพนักงานช่วยเรียกและจ่ายเงินผ่านพนักงานแทน เพราะมีปัญหาอีกว่าแท็กซี่รับเพียงเงินสดสกุล Tengri เท่านั้น ขณะที่ฉันมีเพียงเงินดอลล่าร์ในกระเป๋า และตอบแทนพนักงานด้วยการให้ทิป 5$ เป็นค่าช่วยเหลือ

คนขับแท็กซี่ใจดี คุยภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย ขับรถได้อย่างราบรื่น เราเดินทางถึงสนามบินภายในเวลา 25 นาที ตอนเวลา 10.30 น. ผ่านเช็คอินและตม.ได้อย่างรวดเร็ว สนามบินอัลมาตี้ไม่ใหญ่มาก ผู้โดยสารไม่หนาแน่น ทำให้มีเวลานั่งเล่นและรอขึ้นเครื่องอย่างไม่เร่งรีบ

Leave a Reply

เว็บนี้ใช้ Akismet เพื่อลดสแปม. เรียนรู้ว่าข้อมูลแสดงความเห็นของคุณถูกประมวลผลอย่างไร.

สมัครเป็นสมาชิก

Enter your email below to receive updates.