คำทั้งสามคำนี้มีความหมายซึ่งเราต่างเข้าใจว่าเหมือนกันสำหรับกิจกรรมประเภทกลางแจ้ง ที่ออกไปเดินเล่นสูดอากาศดีดี เพื่อชมวิวที่กว้างใหญ่ของธรรมชาติข้างนอก แต่ที่จริงแล้วทั้งสามคำนี้มีความหมายที่ต่างกันอยู่ ซึ่งการเข้าใจที่ถูกต้องจะทำให้การออกเดินทางมีการเตรียมตัวที่ถูกต้องขึ้น

Hiking
คำนี้มีความหมายว่าการเดินป่าเส้นทางธรรมชาติแบบวันเดียว ซึ่งอาจจะไปและกลับมายังจุดเริ่มต้นเดียวกัน
จากทั้งสามคำ ไฮกิ้ง (Hiking) นับเป็นกิจกรรมที่ง่ายและสบายที่สุด ถือว่าเป็นพื้นฐานของกิจกรรมประเภทกลางแจ้ง ( Outdoor) อาจจะเริ่มจากที่บ้าน ที่พัก ใส่รองเท้าผ้าใบสวมสบาย หรือรองเท้าเดินป่าคู่เก่ง คว้าขวดน้ำ พร้อมแซนวิช ข้าวเหนียวหมูสักห่อ กับเพลงเพราะๆที่โหลดไว้ในโทรศัพท์ ออกไปสูดอากาศ ชมวิวตามเส้นทางที่ถูกวางไว้เป็นเส้นทางเดินป่า ซึ่งมีทั้งความง่าย หรืออาจท้าทายด้วยการปีนป่ายขึ้นไปเพื่อชมวิวสวย ทั้งหมดนี้อาจใช้เวลาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงไปจนเต็มวัน


Trekking
เทรคกิ้ง (Trekking) คือการการเดินเขาเดินป่าเส้นทางธรรมชาติโดยใช้เวลาไปถึงจุดหมายปลายทางหลายๆวัน
นักเดินเขาชาวตะวันตกยังนิยามความหมายของเทรคกิ้ง (Trekking) เพิ่มเติมอีกว่า เป็นการเดินป่าระยะไกล ใช้เวลาต่อเนื่องหลายวัน และนักเดินทางจะแบกเป้เฉพาะที่ใช้ระหว่างวัน ส่วนอุปกรณ์และเครื่องใช้อื่นๆจะถูกแบกโดยลูกหาบ หรือสัตว์ หรือใช้ยานพาหนะในการขนส่งจากจุดเริ่มต้นไปยังปลายทางของแต่ละวัน เนื่องจากคำๆนี้ใช้กันอย่างกว้างขวางในแถบเอเชียเช่นเนปาล ซึ่งมีการจัดทัวร์เทรคกิ้งในหลายเส้นทาง และให้บริการในลักษณะนี้เป็นส่วนใหญ่

การเทรคกิ้งในเนปาลจะมี 2 แบบ
- Teahouse Trekking แบบนี้จะมีที่พักและร้านอาหารระหว่างทาง
- Full organized Camping Trekking แบบนี้จะต้องเตรียมอุปกรณ์เครื่องนอน เต็นท์ และทำอาหารด้วยตัวเอง ซึ่งทั้งหมดนี้จะดำเนินการด้วยลูกหาบและไกด์
Backpacking
Backpacking ก็คือการเดินทางเดินเขาเดินป่าเส้นทางธรรมชาติหลายๆวัน โดยการขนสัมภาระทุกอย่างไปด้วยตัวเอง Backpacking แบบนี้คือการ hiking หลายๆวัน ที่เรียกว่า multi-day hike หรือ Thru Hiker เช่นการ Backpack ในเส้นทาง W-route ของปาตาโกเนีย , การ Backpack ในเส้นทางต่างในอเมริกา ซึ่งต้องใช้เวลาหลายวัน และขนทุกอย่างแม้แต่เต็นท์ อุปกรณ์การทำอาหาร

นอกจากการเดินเขาระดับพื้นฐานข้างต้น ก็ยังมีศัพท์ที่อยากเอามาฝากเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ชอบความเร้าใจมากขึ้นไปอีก สมัยก่อนมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเหล่านักเดินเขามืออาชีพ (Professional) แต่ตอนนี้เปิดกว้างมากขึ้น เรามารู้จักกันเพิ่มเติม เพื่อการเตรียมตัวเตรียมใจเตรียมอุปกรณ์ เพื่อให้การออกไปทำกิจกรรมแบบนี้สนุกและได้ผลอย่างที่คาดหวังกันค่ะ
Mountaineering
ฉันไม่รวมการ Mountaineering ไว้ในการจำกัดความด้านบน เพราะกิจกรรมนี้ไม่ได้เน้นการเดินชมเส้นทางธรรมชาติ แต่เป็นกิจกรรมที่เน้นการใช้เทคนิคและส่วนต่างๆ ของร่างกายมากกว่าการเดินเท้า ส่วนใหญ่แล้วกิจกรรมนี้จะอยู่ที่การปีนเขาในระดับที่สูงกว่า 5000 เมตร ใช้เวลาตั้งแต่ไม่กี่ชั่วโมงจนถึงหลายๆวัน ระหว่างทางนักปีนเขาจะต้องต่อสู้กับสภาพภูมิประเทศที่เป็นหน้าผา เส้นทางขรุขระอันตรายไปจนถึงภูเขาหิน น้ำแข็ง ควรมีความชำนาญในการใช้อุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็นเช่นเชือก,แครมปอน,ฮาร์เนส ,Ice axe

เอาจริงๆแล้ว ศัพท์ต่างๆเรียกผิดบ้าง ถูกบ้าง ทำตรงตามความหมายของคำที่ว่านั้นหรือไม่ ก็ไม่สำคัญเท่ากับการได้ลองทำ ออกมาเดินเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ รูปแบบต่างๆก็ปรับให้เข้ากับสภาพร่างกาย เติมความท้าทายให้สนุกสนาน เดินทางอย่างปลอดภัย

ที่มา :
https://www.ultimategearlists.com/advice/hiking-vs-trekking-vs-backpacking | https://www.ridestore.com/mag/difference-between-hiking-trekking-and-mountaineering/ | https://www.mountainguides.is/blog/the-great-mystery-whats-the-difference-between-hiking







Leave a Reply