Nim Journey

A Legend of Travel

อิสฟาฮาน…มนต์เสน่ห์แห่งเปอร์เซียที่ Naqsh-e Jahan Square และรอบข้าง
Posted in , , ,

เช้าวันนี้ ฉันตื่นขึ้นมาเพื่อสัมผัสกับช่วงเวลาที่งดงามที่สุดของ Naqsh-e Jahan Square หรือ Imam Square จัตุรัสแห่งความรุ่งโรจน์ของราชวงศ์ซาฟาวิด พื้นที่กว้างใหญ่เกือบ 9 เฮกตาร์นี้ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1602 โดยพระราชดำริของ Shah Abbas I เพื่อเป็นศูนย์กลางการเมือง ศาสนา และเศรษฐกิจของจักรวรรดิเปอร์เซีย ที่นี่เป็น มรดกโลกของ UNESCO และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในจัตุรัสเมืองที่งดงามที่สุดในโลก

ในยามเช้า แสงสีทองอ่อน ๆ ที่ตกกระทบโดมและยอดมินาเรตของมัสยิดต่าง ๆ ทำให้รู้สึกราวกับเดินอยู่ในภาพวาดโบราณ เสียงฝีเท้า ของชาวเมืองและนักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมาในความเงียบสงบยิ่งเติมเสน่ห์ให้กับสถานที่แห่งนี้

Chehel Sotoun Palace – ความงดงามของศิลปะราชสำนักเปอร์เซีย

“Chehel Sotoun” แปลตรงตัวว่า “พระราชวัง 40 เสา” แต่ความจริงมีเพียง 20 เสาไม้สูงที่สะท้อนกับน้ำในสระด้านหน้า จนดูเหมือนเป็น 40 เสา สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1647 โดย Shah Abbas II เพื่อใช้เป็นสถานที่รับรองทูตและจัดเลี้ยงอย่างเป็นทางการ

ภายในพระราชวังประดับด้วยจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่ที่บอกเล่าเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ เช่น ชัยชนะของ Nader Shah ที่เดลี หรือ ฉากงานเลี้ยงราชวงศ์ ผนังยังถูกตกแต่งด้วยกระจกโมเสกและไม้แกะสลักที่แสดงถึงความเชี่ยวชาญของช่างฝีมือเปอร์เซีย

วันนี้วันศุกร์ ร้านค้าปิดกันหลายแห่ง หาของทานยากนิดหนึ่ง ซึ่งสะท้อนวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของคนอิหร่านที่ไม่เร่งรีบ สำหรับเรื่องอาหาร พวกเขาไม่นิยมมื้อกลางวันหนักนัก มักเลือกดื่มน้ำชายามบ่าย คุยกันเพลิน ๆ แล้วไปทานมื้อหนักกันจริงจังหลังหนึ่งทุ่มเป็นต้นไป เราเองจึงได้แวะเติมพลังกันที่ร้านกาแฟเล็ก ๆ ใกล้ ๆ Imam Square

ร้านเล็ก ๆ แห่งนี้แอบซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางตรอกซอกที่คึกคักในวันปกติ แต่วันนี้เงียบสงบเป็นพิเศษ เราสั่งอาหารกลางวันเบา ๆ กับกาแฟหอมกรุ่นที่ค่อย ๆ ซึมเข้าสู่ร่างกาย คล้ายจะปลุกชีวิตให้พร้อมสำหรับการเดินทางในช่วงบ่ายต่อไป

Kakh-e Ali Qapu Palace – สถาปัตยกรรมแห่งอำนาจ

พระราชวัง Ali Qapu ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1597 เป็นพระราชวังที่อยู่อาศัยของ Shah Abbas I และยังใช้เป็นจุดชมการแข่งโปโลที่จัดขึ้นกลางจัตุรัส Naqsh-e Jahan ระเบียงชั้น 6 ของพระราชวังนี้เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดของจัตุรัส

ที่โดดเด่นที่สุดคือ ห้องดนตรี (Music Room) ที่ชั้นบนสุด ผนังถูกออกแบบด้วยลวดลายเจาะโปร่งรูปขวด รูปแจกัน เพื่อสร้างระบบเสียงสะท้อนที่สมบูรณ์แบบสำหรับการแสดงดนตรีแบบสด ถือเป็นสุดยอดวิศวกรรมอะคูสติกในยุคกลาง

Sheikh Lotfollah Mosque – ความงามที่สงบและลึกลับ

สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1603 เพื่อเป็นมัสยิดส่วนพระองค์ของราชวงศ์ ไม่มีสุเหร่า (ลานละหมาด) หรือหอเรียกสวด (minaret) เพราะไม่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าใช้

จุดเด่นที่สุดคือ โดมกระเบื้องเซรามิกสีครีมอมทอง ที่จะเปลี่ยนสีไปตามแสงแดดในแต่ละช่วงเวลา ตัวทางเข้าถูกออกแบบให้โค้งหักศอก (bent entrance) เพื่อปกปิดการเข้าของสุภาพสตรีในราชวงศ์ เป็นการผสมผสานของความสง่างามและความพิถีพิถันด้านการออกแบบ

Masjed-e Shah (Imam Mosque) – ความสมบูรณ์แบบของศิลปะเปอร์เซีย

ถือเป็นไฮไลต์ของจัตุรัส สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1611 เพื่อแสดงอำนาจและศรัทธาของราชวงศ์ซาฟาวิด ใช้เวลาสร้างถึง 26 ปี โดมขนาดใหญ่และมินาเรตสูงเด่นของมัสยิดนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

พื้นและผนังประดับด้วย กระเบื้องโมเสกสีฟ้าน้ำทะเล (Persian blue) และลวดลายเรขาคณิตอันซับซ้อน ตัวมัสยิดถูกสร้างเยื้องจากแนวตรงของจัตุรัส เพื่อให้หันหน้าไปทางนครเมกกะได้อย่างแม่นยำ ถือเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์ของสถาปัตยกรรมศิลปะอิสลามแบบเปอร์เซีย

เสียงสะท้อนภายในสร้างความสงบจนแทบหยุดหายใจ ทำให้ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์และความเลื่อมใส


เกร็ดเพิ่มเติมเล็กน้อย:

  • คนอิสฟาฮานมักจะพูดว่า “Esfahan nesf-e jahan” หรือ “อิสฟาฮานคือครึ่งหนึ่งของโลก” เพราะความยิ่งใหญ่และความงดงามของเมืองนี้
  • ศิลปะเซรามิกและพรมเปอร์เซียที่ขายอยู่รอบ ๆ จัตุรัส Naqsh-e Jahan ล้วนเป็นงานฝีมือดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปี

อิสฟาฮานไม่ใช่แค่เมืองที่เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างที่งดงาม แต่ยังอบอวลไปด้วยเรื่องราวของกษัตริย์ นักเดินทาง ช่างฝีมือ และผู้ศรัทธา ที่หล่อหลอมจนกลายเป็นอารยธรรมเปอร์เซียอันยิ่งใหญ่

Leave a Reply

เว็บนี้ใช้ Akismet เพื่อลดสแปม. เรียนรู้ว่าข้อมูลแสดงความเห็นของคุณถูกประมวลผลอย่างไร.

สมัครเป็นสมาชิก

Enter your email below to receive updates.