Nim Journey

เราวนมาจนเกือบครบหนึ่งรอบของไอซ์แลนด์แล้ว ทางเหนือยังคงชุ่มฉ่ำด้วยสายฝนที่โปรยปรายเบา ๆ ราวกับไม่อยากให้เราจากมา แต่เราก็โบกมือลามันอย่างอ้อยอิ่ง แล้วมุ่งหน้าลงใต้ราว 200 กิโลเมตร สู่แถบคาบสมุทร Snæfellsnes ที่พยากรณ์บอกไว้ว่าวันนี้อากาศจะดี

เรายังคงออกเดินทางกันสายเหมือนเช่นเคย ด้วยนิสัยเถลไถลที่หยุดไม่ได้ แวะถ่ายรูปสองข้างทางที่สวยงามราวภาพวาด ก่อนจะหยุดทานมื้อเที่ยงที่ Stikkishólmur เมืองเล็กริมฟยอร์ด ที่เงียบสงบและอบอุ่นเกินคาด ที่นั่นเราได้ลิ้มรสหอยแมลงภู่สีน้ำเงินตัวอวบในซุปครีมร้อน ๆ ที่ทั้งหอมทั้งละมุน—อาจจะเป็นมื้อที่ดีที่สุดของทริปนี้เลยก็ได้

เราขับต่อสู่คาบสมุทร Snæfellsnes ที่เปรียบเสมือน “ไอซ์แลนด์ฉบับย่อ” เพราะรวมไว้ทั้งภูเขา ทะเล หาดทรายสีดำ น้ำตก และธารน้ำแข็งในพื้นที่เดียวกัน เสียดายที่เราไปถึงก็เกือบสี่โมงเย็นแล้ว และเคราะห์ร้ายยังมาเยือนกลางทาง—รถตำรวจโผล่มาพร้อมสีหน้าเคร่งขรึม และค่าปรับที่ไม่เบา เรายืนเซ็นชื่อกันใต้แสงแดดอ่อน ๆ บนพื้นหลังเป็นภูเขาหิมะ รู้สึกเหมือนอยู่ในฉากหนังยุโรปที่ตัวเอกเพิ่งทำอะไรพลาดและต้องยอมจำนนต่อชะตากรรมอย่างสุภาพ

เวลาที่เหลือในวันนั้นเราจึงเร่งรุดชมจุดต่าง ๆ รอบแหลมเท่าที่จะทัน แต่สุดท้ายฟ้าก็เริ่มมืด และเราต้องยอมถอยกลับที่พักไปพักใจ พักกาย เตรียมลุ้นอีกหนึ่งไฮไลท์ของทริป—“แสงเหนือ” ที่ค่าความแรงวันนี้อยู่ที่ KP4 แถมฟ้าก็โปร่งไม่น้อย

แสงเหนือในคืนนี้ไม่หวือหวา ไม่แผ่ขยายฟุ้งทั่วฟ้าเหมือนในโปสเตอร์ แต่มันค่อย ๆ ปรากฏตัวอย่างนุ่มนวล ถ้าไม่เคยเห็นมาก่อน อาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร—แค่ริ้วบาง ๆ สีเขียวหม่นบนท้องฟ้า แต่เพราะเราผ่านประสบการณ์จากคืนก่อน ๆ มาก่อน จึงจับตาเห็นมันทัน

เราตัดสินใจขับรถออกจากแสงไฟของเมือง มุ่งหน้าไปยัง Kirkjufell ภูเขาทรงกรวยที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ ท่ามกลางความเวิ้งว้างของธรรมชาติ ภูเขานี้เคยปรากฏอยู่ในซีรีส์ Game of Thrones ในฉาก Beyond the Wall ซึ่งทำให้ที่นี่กลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของนักเดินทางทั่วโลก

ลมหนาวที่ Kirkjufell รุนแรงพอให้เราคิดจะหนีกลับขึ้นรถหลายรอบ แต่ทุกครั้งที่หันไปมองฟ้า แสงเหนือกลับชัดขึ้น ชัดขึ้นอีก… มันขยับเป็นคลื่นเล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ พาดผ่านเหนือศีรษะ ราวกับกำลังเต้นระบำเงียบ ๆ ให้เราดูเป็นการส่วนตัว

ฉันวิ่งขึ้น วิ่งลง เปลี่ยนมุมถ่ายรูปอย่างคนตัดใจไม่ได้ เพราะแม้จะหนาวจนแก้มชา แต่หัวใจก็เต้นแรงด้วยความตื่นเต้น บางช่วงแสงก็แผ่ออกที่ขอบฟ้าไกล ๆ บางช่วงกลับโผล่มาเหนือหัวราวกับลอยอยู่ใกล้แค่เอื้อม

ถ้าคืนนี้ KP พุ่งไปถึงระดับ 6 หรือ 7 ฉันเชื่อว่าท้องฟ้าที่นี่คงจะระเบิดความงามออกมาอย่างน่าอัศจรรย์ แต่สำหรับเรา แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว—มากเกินกว่าที่ฝันไว้เสียอีก และถึงที่สุดแล้ว ฉันก็ไม่ได้ออกเดินทางเพื่อล่าแสงเหนือหรอก เพียงแค่อยากมองฟ้าที่ต่างออกไปบ้างเท่านั้นเอง