Nim Journey

เช้านี้ไอซ์แลนด์ตื่นมาพร้อมกับฟ้าครึ้มและสายฝนที่ดูจะไม่คิดหยุดง่าย ๆ ลมเย็นพัดแรงตั้งแต่ยังไม่ทันได้จิบกาแฟอุ่น ๆ ให้เต็มอิ่ม แต่ก็ดีเหมือนกันที่วันนี้เราไม่มีนัดสำคัญหรือภารกิจเร่งด่วน มีเพียงเส้นทางขับรถยาวเหยียดที่พาเรามุ่งหน้าสู่ทิศตะวันตกของเกาะ

แต่แม้จะไม่มีอะไรต้องรีบ…เรื่องไม่คาดฝันก็ยังตามมาจนได้ 😓
รถที่เราจอดไว้หน้าที่พัก กลับโดนเฉี่ยวชนเข้าอย่างจังโดยแขกอีกคนที่มาพักเช่นกัน ใจหายวาบแวบหนึ่ง แต่โชคดีมากที่เจ้าของบ้านใจดีเข้ามาช่วยเคลียร์ทุกอย่างให้ราบรื่นภายในเวลาไม่นาน ความวุ่นวายจึงคลี่คลายก่อนที่เราจะได้เริ่มต้นวันใหม่อย่างจริงจัง

ฝนยังคงตกพรำ ๆ ลมก็ยังแรงแทบไม่หยุดตลอดเส้นทาง เราขับรถฝ่าสภาพอากาศที่แปรปรวนจนชินตา แต่ก็ยังอุตส่าห์หาทางแวะปิคนิคข้างทาง บนโต๊ะไม้เปียกฝน ท่ามกลางลมเย็นเฉียบที่แทบพัดกระติกน้ำชาให้ลอย 🍃 ใครจะไปคิดว่าการกินข้าวกลางแจ้งในอุณหภูมิแบบนี้จะทำให้เราหัวเราะกันได้ขนาดนั้น บางทีการเดินทางก็คือการยอมปล่อยให้ตัวเองเปียกบ้าง หนาวบ้าง และยิ้มให้กับมัน

ปลายทางแรกของวันนี้คือ Hvitserkur หินรูปทรงประหลาดที่ยืนตระหง่านกลางทะเล เหมือนสัตว์โบราณที่หยุดนิ่งอยู่ตรงนั้นมานานนับพันปี
บางคนบอกว่ามันเหมือนไดโนเสาร์กำลังดื่มน้ำ บางคนเห็นเป็นโทรลล์ที่โดนแสงแดดกลายเป็นหิน (ตามตำนานชาวไอซ์แลนด์) ไม่ว่าอย่างไร มันก็กลายเป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งที่นักเดินทางทุกคนอยากมีภาพถ่ายคู่

แม้ฝนจะยังคงโปรยปราย ฉันก็ยังวิ่งฝ่าละอองน้ำไปยังจุดชมวิว ยกกล้องขึ้นมาพร้อมเสียงหัวเราะของเพื่อนร่วมทาง เหมือนนักผจญภัยเล็ก ๆ ที่ไม่ยอมให้สภาพอากาศมากำหนดความทรงจำของวัน

ค่ำนี้เราพักกันที่เมืองเล็ก ๆ ชื่อว่า Hvammstangi เมืองริมฟยอร์ดเงียบสงบที่ขึ้นชื่อเรื่องแมวน้ำ (แม้วันนี้จะไม่ได้เห็นก็ตาม) ที่พักคืนนี้ไม่มีครัวให้ทำอาหาร เราเลยได้โอกาสออกไปหาอะไรอร่อย ๆ กินนอกบ้านกันที่ร้านริมทะเลชื่อว่า Sjavarborg — บรรยากาศอบอุ่น วิวดี และเมนูที่ทำให้ต้องยิ้มกว้าง

ขอแนะนำอย่างแรงกับเมนู Ugly Burger ที่ไม่ ugly อย่างชื่อเลยแม้แต่นิดเดียว 😋 ความฉ่ำของเนื้อกับซอสเข้มข้นบวกกับบรรยากาศฝนพรำข้างนอก ทำให้มื้อนี้กลายเป็นหนึ่งในความทรงจำแสนอร่อยของทริป

—

แม้จะมีฝนและลมแรง แต่วันนี้ก็ยังอบอุ่นในแบบของมันเอง
เพราะสิ่งที่ทำให้การเดินทางพิเศษ… ไม่ใช่แค่สถานที่
แต่อยู่ที่เรื่องราวระหว่างทาง และคนที่เราได้แบ่งปันมันด้วย 😊