เช้านี้เราไม่ได้ตื่นแต่เช้าอย่างที่ตั้งใจไว้… แต่เจ้าของบ้านกลับไม่ได้บ่นอะไรเลยสักนิด ตรงกันข้าม เขายิ้มให้แบบใจดี เหมือนเข้าใจพวกเราที่เหนื่อยล้ามาจากวันก่อน “ผมจะพาไปดูที่ที่ผมชอบที่สุด” เขาบอกด้วยแววตาเปล่งประกาย จนเรารู้ทันทีว่าสิ่งที่กำลังจะได้เห็นนั้น…ต้องพิเศษแน่ๆ
รถค่อย ๆ วิ่งพาเราลัดเลาะไปตามทางสายเล็ก ผ่านทุ่งหญ้าที่เหมือนปูด้วยพรมเขียวขจี ถึงแม้ท้องฟ้าจะครึ้ม ๆ หน่อย แต่บรรยากาศกลับอบอุ่นเหมือนมาเที่ยวกับเพื่อนที่รู้ใจ
Gullfoss รอเราอยู่ตรงหน้า—น้ำตกขนาดใหญ่ที่ส่งเสียงคำรามดังก้อง เหมือนบทเพลงของธรรมชาติ เส้นน้ำอันทรงพลังไหลพุ่งลงสู่หุบลึกสองชั้น สร้างสายรุ้งจาง ๆ เมื่อแดดลอดออกมาทักทาย เห็นแล้วเข้าใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงกลายเป็นความภูมิใจของคนท้องถิ่น
เราเดินเลียบทางไม้ ชมวิวไปพลาง ฟังเสียงน้ำไปพลาง ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งปิคนิคกลางสรวงสวรรค์ หญ้ามอสเขียว ๆ ที่ปูแน่นเหมือนฟูกนุ่ม ๆ กลายเป็นพรมรองเท้าให้การเดินวันนี้เบาสบายกว่าทุกวัน
ช่วงสายเราแวะไปเยือน Bruarfoss —น้ำตกขนาดเล็กแต่น้ำสีฟ้าใสจนเกือบเรืองแสง ราวกับถูกเวทมนตร์สรรค์สร้างไว้ในซอกหลืบของธรรมชาติ ต้องเดินเทรลเข้าไปสักหน่อย แต่คุ้มค่าทุกก้าว
บ่ายคล้อย รถมุ่งหน้าเข้าสู่เขต Highland ดินแดนกลางภูเขาไฟ ที่เต็มไปด้วยความดิบ เงียบ และงดงามแบบดุเดือด จุดหมายคือ Landmannalaugar —สวรรค์ของคนรักการเดินเขา
ระหว่างทาง วิวเริ่มเปลี่ยนจากทุ่งเขียว เป็นหินลาวาดำ ๆ แซมด้วยหิมะขาว ๆ ที่ยังไม่ยอมละลาย เหมือนเรากำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่อีกโลกหนึ่ง โลกที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของภูเขาไฟ ความร้อนใต้พิภพ และสีสันจากแร่ธาตุที่ธรรมชาติแต่งแต้มไว้ด้วยมือของเธอเอง
คืนนี้เราจะนอนในดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการผจญภัยในวันพรุ่งนี้
Nim Journey 
Leave a Reply