เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ข้ามฟ้าข้ามเวลามาถึงยุโรปเหนือ ตอนเครื่องแตะรันเวย์ที่ออสโล ยังไม่ทันได้หายเหนื่อยก็ต่อเครื่องอีกรอบไปไอซ์แลนด์ — ประเทศที่ถูกขนานนามว่า “ดินแดนแห่งน้ำแข็งกับไฟ” — และทันทีที่รับรถเช่าจากสนามบิน เราก็เริ่มต้นการเดินทางแบบไม่พักหายใจ ด้วยเส้นทางยอดนิยม “Golden Circle” ที่รวมเอาธรรมชาติอันน่าทึ่งไว้ครบถ้วนในวันเดียว
ถึงแม้จะเป็นวันแรก และพวกเราจะหน้าตาโทรมกันถ้วนหน้าเหมือนนักเดินทางที่หลุดออกมาจากไทม์แมชชีน แต่ความตื่นเต้นมันมากพอจะพยุงพลังไว้ทั้งวัน
Þingvellir National Park (ซิงเควลลิร์)
จุดแรกของเราคืออุทยานแห่งชาติ Þingvellir — สถานที่ที่ไม่ได้มีดีแค่ภูมิประเทศที่งดงามราวฉากในซีรีส์แฟนตาซี แต่ยังเป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ เพราะที่นี่เคยเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งแรกของโลกในปี ค.ศ. 930
เราเดินอยู่ระหว่างรอยแยกของแผ่นเปลือกโลกยูเรเซียนกับอเมริกาเหนือ มองเห็นแนวผาหินที่เบียดตัวห่างออกจากกันอย่างช้า ๆ ทุกปี ที่นี่ไม่ใช่แค่เดินเที่ยว แต่เหมือนได้เดินอยู่บนรอยต่อของโลกเลยก็ว่าได้

Geysir (เกย์ซีร์)
ต่อมาคือ Geysir — บ่อน้ำพุร้อนเจ้าของชื่อที่กลายมาเป็นคำว่า “geyser” ที่ใช้กันทั่วโลก แม้เจ้า Geysir ตัวจริงจะไม่ค่อยพ่นน้ำแล้วในปัจจุบัน แต่พี่น้องใกล้ ๆ อย่าง Strokkur ยังโชว์พลังได้ทุก ๆ 5–10 นาที น้ำพุเดือด ๆ ที่พุ่งขึ้นสู่ฟ้าราว 20 เมตร ทำเอาเรายืนลุ้นกันเหมือนเล่นบิงโก ว่าเมื่อไรจะถึงรอบของมัน

Gullfoss (กุลล์ฟอสส์)
ปิดท้ายวันแรกด้วยเสียงคำรามของน้ำตก Gullfoss — หรือ “น้ำตกทองคำ” ที่ไหลลดหลั่นลงเป็นชั้น ๆ สู่หุบเขาลึก ละอองน้ำลอยคลุ้งปะทะกับแสงแดดอ่อน ๆ ยามบ่าย กลายเป็นสายรุ้งจาง ๆ ราวกับต้อนรับเราเข้าสู่ดินแดนแห่งเทพนิยาย







Leave a Reply