เช้านี้ ฉันตื่นขึ้นมาท่ามกลางความเงียบของโฮสเทล ที่นี่ดูเหมือนจะมีแค่ฉันเพียงคนเดียวที่ยังไม่ได้ออกไปไหน หรือบางทีสมาชิกคนอื่นอาจจะออกไปเที่ยวกันหมดแล้วก็ได้ ฉันไม่มีแผนการเดินทางที่แน่นอนในวันนี้ เลยตั้งใจจะใช้เวลาทั้งวันไปกับการ สำรวจ Irkutsk—เมืองที่ได้รับฉายาว่า “ปารีสแห่งไซบีเรีย”
Irkutsk… จากอดีตอันโหดร้าย สู่เมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์
Irkutsk เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มันเคยเป็นจุดหมายของนักโทษการเมืองและผู้ถูกเนรเทศ โดยเฉพาะในช่วงศตวรรษที่ 19 เมื่อพวก Decembrists—กลุ่มขุนนางที่พยายามปฏิวัติจักรวรรดิรัสเซีย—ถูกส่งมาที่นี่ พวกเขานำวัฒนธรรม ศิลปะ และแนวคิดสมัยใหม่มาสู่ไซบีเรีย และทำให้เมืองที่เคยเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ค่อย ๆ กลายเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม
วันนี้ Irkutsk เป็นเมืองที่มีความทันสมัยแต่ยังคงแฝงไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ บ้านไม้เก่าแก่ยังคงตั้งเรียงราย ถัดจากย่านที่เป็นตึกสมัยใหม่ ฉันเดินผ่านย่านบ้านเก่า พลางจินตนาการถึงชีวิตของผู้คนที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่เมื่อร้อยปีก่อน
อาหารญี่ปุ่นในเช้าสายๆ —รสชาติคุ้นเคยที่โหยหา
หลังจากตื่นนอนในตอนสาย ฉันเดินออกมาจากโฮสเทลเพื่อหาอาหารดี ๆ สักมื้อ คืนก่อนฉันเห็น ร้านอาหารญี่ปุ่น อยู่แถว ๆ นี้ และอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมถึงมีร้านแบบนี้ในไซบีเรีย บางทีอาหารญี่ปุ่นอาจเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ง่ายและได้รับความนิยมไปทั่วโลก
ฉันก้าวเข้าไปในร้าน สั่งเซ็ตข้าวปั้นและซุปมิโสะ กลิ่นหอมของอาหารทำให้ฉันรู้สึกเหมือนได้กลับมาใช้ชีวิตในเมืองศิวิไลซ์อีกครั้ง หลังจากหลายวันที่ทานแต่บะหมี่สำเร็จรูปและขนมปังแข็ง ๆ บน รถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย
รสชาติของมันไม่ได้พิเศษมากนักหรอก แต่สำหรับฉัน… มันคืออาหารที่ดีที่สุดที่ฉันได้ทานในรอบหลายวัน
พิพิธภัณฑ์ที่ปิด และกระดาษขาวที่เตรียมไว้โดยเฉพาะ
หลังจากอิ่มท้อง ฉันเดินไปที่ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ Irkutsk ฉันไม่ได้รีบร้อนที่จะเข้าไป แค่ยืนมองอยู่ด้านนอก สำรวจตัวอาคารและบรรยากาศรอบ ๆ
ขณะนั้นเอง ลุงยามที่อยู่ตรงประตู ก็กวักมือเรียกฉันให้เข้าไปหา ฉันเดินเข้าไป แล้วเตรียมตัวหยิบเงินจ่ายค่าเข้าชม แต่แทนที่จะรับเงิน ลุงกลับยื่นกระดาษขาวแผ่นหนึ่งให้ฉัน ข้อความบนกระดาษเขียนว่า
“We do not work on Wednesday.”
…อาาา… วันนี้วันพุธนี่เอง! 😆
ฉันขำออกมา เพราะกระดาษแผ่นนี้ดูเหมือนเป็น “เครื่องมือสื่อสาร” ที่ลุงเตรียมไว้โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยว ที่อาจเผชิญอุปสรรคด้านภาษา แน่นอนว่านี่คงไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนมาถึงที่นี่แล้วพบว่ามันปิด และก็คงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายเช่นกัน
ฉันพยักหน้ารับรู้ หัวเราะกับลุง แล้วเดินออกจากพิพิธภัณฑ์ โดยไม่ได้รู้สึกเสียดายเลยสักนิด
การเดินที่ไร้แผน และการจ็อกกิ้งที่พาฉันไปเป็นส่วนหนึ่งของเมือง
ฉันไม่ได้มีแผนที่แน่นอนสำหรับช่วงเวลาที่เหลือของวัน จึงเดินเล่นไปเรื่อย ๆ แวะซื้อกาแฟมานั่งจิบบริเวณริมแม่น้ำอังการ่า (Angara) แม่น้ำสายเดียวที่แยกออกจากทะเลสาบไบคาล น้ำใสและเย็นจนสามารถสัมผัสได้จากสายลมที่พัดมา
บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่ฉันรักเกี่ยวกับการเดินทาง—ไม่ต้องเร่งรีบ ไม่ต้องมีแผนแน่นอน แค่ปล่อยให้ตัวเองไหลไปตามจังหวะของเมือง
ช่วงบ่ายแก่ ฉันออกไป จ็อกกิ้ง รอบเมือง วิ่งผ่านสวนสาธารณะและโบสถ์ต่าง ๆ ได้เห็น Irkutsk ในมุมที่แตกต่าง การวิ่งในเมืองที่ไม่คุ้นเคยแบบนี้เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการสำรวจพื้นที่ ฉันรู้สึกเหมือนได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนที่นี่
ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยผู้คนใหม่ ๆ ในโฮสเทล
ตอนเย็น ฉันกลับมาที่โฮสเทล… แตบรรยากาศไม่เหมือนเมื่อเช้าอีกแล้ว
เมื่อเช้าที่นี่เงียบสงบ แต่ค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลกมาพักที่นี่—สาวเยอรมัน หนุ่มฝรั่งเศส หนุ่มออสเตรียที่อยู่จีน ชายชาวอเมริกันวัยกลางคนที่เดินทางคนเดียวแต่ช่างคุยชะมัด
ทุกคนมารวมตัวกันในครัวของโฮสเทล แลกเปลี่ยนเรื่องราวและเสียงหัวเราะ
พวกเขาชวนฉันออกไป ทานอาหารเย็น ที่ร้านอาหารใกล้ ๆ ฉันลังเลอยู่สักพัก… มันคงเป็นโอกาสดีที่ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ แต่แล้วฉันก็นึกขึ้นได้ว่า ฉันมีปลาโอมุลย่าง ติดมาจากซุปเปอร์ และตั้งใจจะทานมันที่โฮสเทล
“ฉันขอผ่านนะ” ฉันตอบพร้อมรอยยิ้ม “คืนนี้ฉันมีมื้อพิเศษของตัวเอง”
พวกเขาหัวเราะ และบอกว่าไว้ค่อยเจอกันหลังจากมื้อเย็นแล้ว ฉันกลับไปนั่งที่ครัวของโฮสเทล อุ่นปลาโอมุล แล้วนั่งทานเงียบ ๆ มันเป็นปลาน้ำจืดจากทะเลสาบไบคาล และเป็นวัตถุดิบที่ดีที่สุดที่ฉันได้ทานในไซบีเรีย
ขณะนั้นเอง Dowson ผู้จัดการสาวของโฮสเทล—เดินเข้ามานั่งคุยกับฉัน เธอถามฉันว่าอยากไปเที่ยวต่อที่ไหน และแนะนำให้ไป เกาะ Olkhon หรือ หมู่บ้าน Listvyanka
ฉันไม่ต้องคิดนานเลย และเลือกไปเที่ยวเกาะOlkhon ฉันให้เธอช่วยจองทริป 3 วัน 2 คืน ให้ แล้วจากนั้นก็ค่อยว่ากันอีกทีว่าจะไปไหนต่อ
Irkutsk: เมืองที่มีเสน่ห์ของอดีตและปัจจุบัน
จากเช้าที่เงียบสงบ สู่ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ฉันรู้สึกว่าการเดินทางแบบ backpacker นั้นมีเสน่ห์อย่างไร
พรุ่งนี้ฉันกำลังจะเดินทางไป เกาะ Olkhon การเดินทางของฉันยังไม่จบ และฉันตื่นเต้นที่จะได้ค้นพบเรื่องราวใหม่ ๆ ในไซบีเรียต่อไป
อ้อ แต่จนถึงตอนนี้ ทางโฮสเทลยังไม่เคยร้องขอพาสปอร์ตของฉันเพื่อไปลงชื่อ ลงทะเบียนเข้าพัก จนพรุ่งนี้ฉันจะต้องลาจากที่นี่ไปแล้ว ฉันสงสัยเหลือเกินว่าข้อมูลการเดินทางของฉันในรัสเซียคงสิ้นสุดที่การลงรถไฟที่เมืองนี้ หากต่อจากนี้ฉันไปไหน แล้วเกิดอะไรขึ้น พวกเขาจะติดตามฉันได้ยังไง เวลานี้ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกเนรเทศอยู่ในไซบีเรีย ดินแดนที่นำคนที่มีปัญหามาทิ้งไว้
ดังนั้นฉันเองนี่แหละที่ต้องแก้ปัญหาซะหน่อย โดยการส่งข่าวไปให้ที่บ้านรู้ว่า “ตอนนี้ฉันอยู่ไซบีเรีย และสบายดี”







Leave a Reply