Nim Journey

A Legend of Travel

พรีเวียต มอสโคว์
Posted in , ,

เราเริ่มต้นการเดินทางในมอสโคว์ด้วยปัญหาเล็กน้อย เมื่อเอกสารสำคัญของเราหายไปที่สนามบิน Domodedovo แม้จะพยายามติดต่อนายท่าผ่านความช่วยเหลือจากนักศึกษาแพทย์ชาวไทยที่บังเอิญเจอ แต่ก็พบว่าคงทำอะไรไม่ได้มากนักในเวลานี้ นอกจากทำใจ และภาวนาว่าเอกสารที่หายไปคงไม่ทำให้เราถูกกักตัวตอนขาออกกลับบ้าน!

หลังจากเสียเวลาไปพอสมควร เรารีบลากกระเป๋าไปซื้อตั๋วรถไฟ Aeroexpress เข้าเมือง ปลายทางของสายนี้อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน Paveletskaya ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางอันแสนตื่นเต้นในมอสโคว์ คำแนะนำเกี่ยวกับการเดินทางไปที่พักถูกเตรียมไว้ละเอียดมาก แต่สำหรับผู้มาใหม่เช่นเรา ก็ยังคงรู้สึกงุนงงอยู่ดี

เมื่อภาษากลายเป็นอุปสรรคแรก

ตั้งแต่การซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินก็เริ่มมีปัญหา ข้อมูลที่เราอ่านมาบอกว่าให้ซื้อตั๋วแบบ 10 ใบ เพราะราคาถูกกว่า แต่ป้ายที่หน้าต่างขายตั๋วกลับมีแต่แบบ 11 ใบ 320 รูเบิล ซึ่งหารแล้วตกใบละ 29 กว่า ๆ แพงกว่าตั๋วเที่ยวเดียวที่ราคา 28 รูเบิลเสียอีก! ฉันพยายามเข้าออกไปสอบถามหลายรอบ แต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายเลยซื้อตั๋วเที่ยวเดียวไปก่อน เพื่อให้ถึงที่พักก่อนค่ำ

ดินแดนใต้ดินแห่งมอสโคว์

สถานีรถไฟใต้ดินของที่นี่ดูคึกคักและเร่งรีบอย่างไม่น่าเชื่อ บันไดเลื่อนที่ยาวจนน่าตกใจ บางสถานีมีต่อกัน 2-3 ชั้น เรานั่งรถไปอีก 3 สถานีซึ่งไม่ใช่ปัญหา แต่พอถึงจุดหมาย คำสั่งจากที่พักให้เราเดินขึ้นบันไดต่อไปอีก ทว่ามีบันไดทั้งซ้ายและขวา… แล้วเราควรไปทางไหน?

ในช่วงที่กำลังทำหน้าเลิ่กลั่กนั้นเอง ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาทักเป็นภาษาอังกฤษว่า “จะไปไหน?” ฉันรีบยื่น iPhone ที่จดวิธีเดินทางไปที่พักให้เขาดู ท่ามกลางความวุ่นวายของเมือง เขาดูเหมือนแสงสว่างกลางความมืด เขาอธิบายว่าสถานีที่นี่มีหลายชั้น และแต่ละชั้นมีทางออกที่ไม่เหมือนกัน ทางที่ดีที่สุดคือออกไปด้านนอกตรงป้ายทางออก หรือเดินเชื่อมไปยังสถานีที่ใกล้ที่สุด เราจึงเดินตามเขาไปพร้อมกับเพื่อนหญิงของเขาที่ส่งยิ้มมาให้

ระหว่างทางเราคุยกันเล็กน้อย เมื่อบอกว่าเราจะอยู่มอสโคว์เพียง 3 วัน ทั้งสองคนทำหน้าตกใจและบอกว่า “น้อยไป มอสโคว์มีที่เที่ยวเยอะ น่าจะอยู่สัก 10 วัน!” ก่อนที่พวกเขาจะแยกออกไป ชายหนุ่มยังอุตส่าห์ชี้บันไดเลื่อนอันถัดไปให้เราขึ้นต่อ เป็นน้ำใจเล็ก ๆ ที่ช่วยเติมเต็มวันแรกในมอสโคว์ของเรา

จากสถานีใต้ดินสู่เมืองใหญ่

เมื่อโผล่ขึ้นมาจากสถานี เราพบว่าตัวเองยืนอยู่ท่ามกลางมหานคร ถนนกว้าง 8 เลน ตึกใหญ่สองข้างทางดูเหมือนสำนักงานและร้านค้าหรูหรา แม้ร้านขายของจะปิดตอนกลางคืน แต่ร้านอาหารและคาเฟ่ยังเปิดอยู่บ้าง ผู้คนที่เคยเดินกันขวักไขว่ในสถานีรถไฟใต้ดิน บนถนนกลับดูบางตาลงอย่างเห็นได้ชัด

Ivan Hostel… อยู่ไหนกันแน่?

ฉันและเพื่อน ๆ ค่อย ๆ เดินตามคำสั่งของแผนที่ ข้ามถนนและมองหาที่พักจนแน่ใจว่ามาถึงจุดหมายแล้ว แต่ปัญหาคือ เราไม่เจอ Ivan Hostel! เราพยายามถามคนแถวนั้น บางคนช่วยดูให้แต่ก็ไม่รู้จักสถานที่แห่งนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันพบว่าคนพื้นที่มักไม่คุ้นเคยกับโฮสเทลขนาดเล็ก แม้จะได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวและติดอันดับใน Lonely Planet ก็ตาม

โชคดีที่ชายคนหนึ่งซึ่งยืนคุยโทรศัพท์อยู่ใกล้ ๆ เดินเข้ามาช่วยดูที่อยู่ให้ เขาหันซ้ายหันขวา แล้วชี้ไปที่ตึกที่เราเพิ่งเดินผ่านมา “นี่ไง ตึกนี้แหละ” แม้เขาจะไม่รู้ว่ามีโฮสเทลอยู่ที่นี่ก็ตาม แต่เขายืนยันว่าตึกนี้ถูกต้อง และเมื่อมองไปยังป้ายเล็ก ๆ ที่ติดอยู่ข้าง ๆ เราก็พบว่า มาถึงที่หมายแล้วจริง ๆ!

จบบทแรกของมอสโคว์

เราแบกกระเป๋าขึ้นไปยังชั้น 3 ของโฮสเทล เช็คอินและพบว่าสถานที่ดูสะอาดสะอ้าน สมกับคะแนนรีวิวที่สูง เราต่างรีบอาบน้ำและพักผ่อนจากความเหนื่อยล้า แต่ก่อนเข้านอนก็ยังไม่วายพูดคุยถึงสิ่งที่พบเจอในวันแรก ผู้คนที่นี่ดูเคร่งขรึมและไม่ค่อยยิ้มแย้ม ภาษาและตัวอักษรรัสเซียที่ไม่คุ้นตา บันไดเลื่อนที่ลึกและยาวอย่างไม่น่าเชื่อ และแน่นอน… ความมีน้ำใจของผู้คนที่ช่วยเหลือเราตลอดทาง

แม้จะเคยได้ยินว่าคนรัสเซียไม่น่าไว้วางใจ แต่วันแรกของเรากลับได้รับการต้อนรับที่ดี จนรู้สึกเหมือนรัสเซียได้ส่งเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลเราตั้งแต่วันแรกเลยทีเดียว!

Leave a Reply

เว็บนี้ใช้ Akismet เพื่อลดสแปม. เรียนรู้ว่าข้อมูลแสดงความเห็นของคุณถูกประมวลผลอย่างไร.

สมัครเป็นสมาชิก

Enter your email below to receive updates.