Nim Journey

A Legend of Travel

เช้าวุ่นวายที่สับสนกับเวลานัด
Posted in , ,

เริ่มต้นเช้าวันใหม่แบบงง ๆ ตั้งแต่ยังไม่ทันลืมตาดี เพราะดันไปเข้าใจว่ามีนัดออกเดินทางตอน 7 โมงเช้า อัลตาฟประกาศชัดตอนเย็นวานว่า “เจอกันเจ็ดโมงนะทุกคน” แต่พอถึงเวลาจริงกลับกลายเป็นว่าทุกอย่างเงียบฉี่ มีแค่พวกเราที่ลุกขึ้นมาเตรียมตัวกันหน้าตาเฉย ส่วนครัวก็ยังไม่ทันตื่นดี อาหารเช้ายังไม่เสร็จ แถมอากาศยามเช้าก็หนาวจับใจ 😪

แอ๋มเลยด่าอัลตาฟกันหนึ่งยกแบบไม่ไว้หน้า ให้นัดเวลาตามเมืองนี้ ไม่ใช่เอาเวลาปากีสถานมาใช้ อัลตาฟเลยจ๋อยแต่เช้า

แต่เวลาแถบนี้ก็ทำให้คนต่างถิ่นอย่างพวกเราสับสนกันได้ง่ายๆ เพราะมีทั้งเวลาของเมืองคัชการ์ ,เวลาปักกิ่ง และเวลาปากีสถาน

สู่คาราคูล ผ่านเส้นทางงดงามยิ่งกว่าฝัน

รถมารับตอน 9 โมง โดยเป็นรถคันเดิม คนขับเจ้าเดิมที่ยังโวยวายเป็นระยะ ๆ ไม่เปลี่ยน เรามุ่งหน้าสู่ ทะเลสาบคาราคูล (Karakul Lake) โดยไม่แวะที่ไหนเลย ใช้เส้นทางเดียวกับตอนขามาเมื่อคืนที่มืดสนิทจนไม่เห็นอะไร วันนี้พอได้เห็นด้วยตาจริง ๆ แล้วถึงกับอึ้ง

สองข้างทางสวยจับใจ ดินภูเขาไล่เฉดตั้งแต่สีแดง ส้ม ทอง ไปจนถึงเทาแห้ง แลดูเหมือนงานศิลปะชั้นดี พื้นหลังเป็นเทือกเขาหิมะทอดตัวยาวราวม่านผ้าขาวบาง มีลำธารน้ำใสสะท้อนแดดระยิบระยับอยู่เบื้องหน้า และทุ่งเลี้ยงสัตว์กว้างไกลที่เห็นฝูงวัวฝูงแพะเดินเล็มหญ้าอย่างสงบ—ภาพทั้งหมดนี้เหมือนฝันจริง ๆ

ระหว่างทางมีบางช่วงที่ถนนพังอยู่ กำลังปรับปรุงใหม่ มีชาวพื้นเมืองเดินผ่านบ้างประปราย บรรยากาศดูเงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน เหมาะกับการทอดสายตาไกล ๆ แล้วปล่อยใจให้ไหลไปกับวิว

คาราคูลงดงามเหมือนในฝัน

เราใช้เวลาราว 3 ชั่วโมงก่อนจะถึง จุดชมวิวริมทะเลสาบคาราคูล น้ำในทะเลสาบสีฟ้าอมเขียวเปล่งประกายใต้แสงแดด ล้อมด้วยภูเขาหิมะสูงตระหง่าน มองแล้วให้อารมณ์คล้าย ๆ กับที่พันกอง (Pangong Lake) ในลาดักห์ แต่ก็มีเสน่ห์เฉพาะตัว เดินเล่น ถ่ายรูป และนั่งนิ่ง ๆ มองน้ำอยู่นาน จนเกือบลืมหิว

มื้อกลางวันได้กินกันตอนบ่ายสองตามสไตล์ทริปนี้ คนขับรถยังคงบ่นกระปอดกระแปดอยากให้รีบไป แต่พวกเราก็ยื้อเวลาอยู่นั่นแหละ จนถึงห้าโมงเย็นถึงยอมขยับตัวกลับขึ้นรถ มุ่งหน้าไปยัง Tashkurgan

สู่ทัชเคอร์กัน เมืองชายแดนแสนสวย

จากคาราคูลไป Tashkurgan ใช้เวลาขับรถประมาณชั่วโมงครึ่ง คนขับซิ่งแบบสุดขีด จนรถส่งเสียงเตือนถี่ ๆ เล่นเอาหัวใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ไปตลอดทาง

พอมาถึงโรงแรม คนขับก็ไม่เห็นจะรีบกลับไหน นั่งรอรับคิวคนจะกลับ คัชการ์ (Kashgar) อย่างใจเย็น ขัดกับตอนโวยวายบนรถอย่างสิ้นเชิง แต่ไฮไลต์คือ อัลตาฟยังอุตส่าห์ให้ทิปไปตั้ง 300 หยวน โดยที่เราสมทบช่วยกัน 200 ตาม “ธรรมเนียมสากล” (แอ๋มว่าไว้แบบนั้น)

เย็นย่ำแห่ง Tashkurgan

หลังจากเก็บของเข้าห้องพัก พวกเราก็ได้ข่าวใหม่ที่ทำให้สมาชิกหลายคนอึ้ง… พรุ่งนี้จะต้องนั่งรถสาธารณะกลับ Sost แทนที่จะมีรถส่วนตัวอย่างที่เข้าใจกันไว้ตั้งแต่ต้น งานนี้เลยต้องเปิดวงถกปัญหากันอีกรอบ เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องความสะดวก แต่พวกเราสงสัยเกี่ยวกับการทำวีซ่าข้ามเข้า ปากีสถาน รอบใหม่ด้วย แต่ก็คิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาเพราะอัลตาฟยืนยันเสียงแข็งว่ากลับได้แน่นอน

ตกเย็น เราออกไปเดินเล่นในเมือง พบกับซาก ป้อมปราการโบราณของทัชเคอร์กัน ที่ยังหลงเหลือเค้าโครงความยิ่งใหญ่ในอดีต เป็นภาพเงาเงียบสงบที่ตัดกับแสงอาทิตย์สีทองปลายฟ้า ถ่ายรูปกันเพลินก่อนจะกลับมากินข้าวเย็นที่โรงแรม

Leave a Reply

เว็บนี้ใช้ Akismet เพื่อลดสแปม. เรียนรู้ว่าข้อมูลแสดงความเห็นของคุณถูกประมวลผลอย่างไร.

สมัครเป็นสมาชิก

Enter your email below to receive updates.