ท่ามกลางทุ่งหญ้ากว้างสุดลูกหูลูกตาของมองโกเลีย รถแวนรัสเซียสี่คันจอดเรียงกันรอรับพวกเรา หนึ่งคันเป็นรถเสบียงสำหรับบรรทุกข้าวของและอุปกรณ์ที่จำเป็น อีกสามคันเป็นพาหนะหลักสำหรับพาพวกเราลุยเส้นทางที่แทบไม่มีถนนให้เห็น ฉันมองดูเจ้ากระป๋องเหล็กเหล่านี้ด้วยความรู้สึกกึ่งเอ็นดู กึ่งตื่นเต้น รถหน้าตาโบราณคลาสสิกแต่บึกบึนราวกับสร้างมาเพื่อฝ่าฟันทุกสภาพอากาศบนโลก มันทั้งเท่ ทั้งวินเทจ และแน่นอนว่ามันเหมาะเจาะกับทริปมองโกเลียของเราสุดๆ
แม้จะดูเหมือนเลือกคันที่ “ใหม่ในความเก่า” ที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรการันตีว่ามันจะพาเราผ่านพ้นสิบวันของการเดินทางโดยไม่มีอาการสะดุด ฉันเริ่มต้นทริปด้วยความหวังลึกๆ ว่าจะไม่ต้องนั่งอยู่ในรถที่พังกลางทางและต้องให้เพื่อนร่วมทริปลงมาช่วยเข็น

ตะลุยทุ่งหญ้าแบบไร้เส้นถนน
การเดินทางในมองโกเลียไม่มีเส้นทางที่แน่นอน ไม่มีถนนลาดยางให้เห็น มีแต่รอยล้อเก่าที่บอกเป็นนัยๆ ว่าเคยมีคนผ่านไปบ้าง รถแวนของเราสะเทือนกระเด้งขึ้นลงจนรู้สึกเหมือนกำลังควบม้า ฝ่าทุ่งหญ้า เนินเขา และบางจุดที่ต้องลุยลำธาร รถบางคันต้องใช้แรงลากพ่วงจากอีกคันช่วยข้ามผ่านน้ำไปให้ได้ บางครั้งเราต้องหยุดเพื่อซ่อมรถกลางทุ่งกว้าง ลมพัดผ่านจนรู้สึกว่ามันอาจพัดรถของเราหายไปได้ง่ายๆ
คันที่ฉันนั่งดูเหมือนจะเป็นคันที่งอแงที่สุด เจอแม่น้ำทีไร เป็นต้องอ่อนแรงเหมือนเด็กหมดแรงวิ่งไล่วัว ต้องเรียกไกด์มาช่วยเข้าเกียร์ให้ แอบเสนอตัวช่วยลุงคนขับ แต่เจอค้อนหนึ่งวงใหญ่จากลุง ก่อนที่ลุงจะกระโดดลงไปตามเดวิด ไกด์ของเราให้มาช่วยแทน สุดท้ายเดวิดจัดการเข้าเกียร์เสริมให้ ลุงเหยียบคันเร่งเต็มที่ และเราก็พุ่งทะยานข้ามน้ำมาได้สำเร็จ (แอบคิดในใจว่า นี่มันรถหรืออูฐกันแน่นะ ทำไมถึงข้ามน้ำลำบากขนาดนี้!)
บางช่วงของทาง มีหลุมลึกและเนินสูงที่ทำให้ต้องใช้รถคันอื่นมาลากดึงกันขึ้นไป ฉันและเพื่อนร่วมทางนั่งลุ้นกันตัวโก่ง ทุกครั้งที่รถพุ่งผ่านอุปสรรคไปได้ เราจะส่งเสียงเฮเหมือนเชียร์ม้าศึกที่พึ่งฝ่าศึกหนักมา

ช่างซ่อมรถจำเป็น
สิ่งที่ฉันประทับใจไม่แพ้ทิวทัศน์อันกว้างใหญ่ คือฝีมือการดูแลรถของคนขับ ทุกครั้งที่เราหยุดพัก คนขับจะรีบลงมาตรวจเช็ครถทันที บางคนแทบจะรื้อเครื่องยนต์ออกมากองอยู่ข้างทาง ทุกชิ้นส่วนถูกสำรวจอย่างละเอียด ฉันอดสงสัยไม่ได้ว่าพวกเขาจะประกอบกลับเข้าไปได้ครบทุกชิ้นจริงๆ หรือเปล่า
มาถึงจุดนี้ ฉันต้องยอมรับว่า รถแวนรัสเซียเหล่านี้อึดถึกทนสมคำร่ำลือ มันไม่ได้เป็นแค่พาหนะ แต่มันคือหัวใจของการเดินทางในมองโกเลีย มันพาเราข้ามผ่านเส้นทางสุดโหด มันพังและถูกซ่อมแซมซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่สุดท้ายมันก็ไม่เคยทิ้งพวกเราไว้กลางทางเลยสักครั้ง







Leave a Reply