Avignon เมืองใหญ่ทางใต้ของฝรั่งเศส สถานที่ซึ่งเคยเป็นที่พำนักของสันตะปาปาตั้งแต่ในปี 1309 พระสันตะปาปาส่วนหนึ่ง(ฝรั่งเศส)ทรงพำนักในพระราชวังกอธิคที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเป็นเวลากว่า 100 ปี ท่ามกลางความขัดแย้ง แตกแยก แข่งขันการมีอำนาจกับพระสันตะปาปาแห่งกรุงโรม ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นรอยแยกครั้งใหญ่ของคริสตจักรแห่งตะวันตก The Great Schism
พระราชาวังสันตะปาปา เป็นทั้งป้อมปราการ และพระราชวังศิลปะกอธิค ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
อาวีญงกลายมาเป็นที่ประทับของพระสันตะปาปาในปี ค.ศ. 1309 สมเด็จพระสันตะปาปาเคลเมนต์ที่ 5 ไม่มีพระประสงค์ที่จะเผชิญกับเหตุการณ์ร้ายต่างในกรุงโรมหลังจากที่ทรงได้รับเลือกในปี ค.ศ. 1305 พระองค์จึงทรงย้ายสภาปกครองของพระสันตะปาปา (Papal Curia) ไปตั้งที่อาวีญง ซึ่งเป็นต้นเหตุที่นำไปสู่เหตุการณ์ที่เรียกว่า The Great Schism
อาวีญงเป็นเมืองเล็กใกล้ชายแดนฝรั่งเศส ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Rhone
เดิมเป็นอารามของสำนักดอมินิกันในอาวีญง ต่อมาได้รื้อถอนและสร้างวังใหม่ขึ้นบนพื้นที่เดิม โดย Benedict XII และ Clement VI สันตะปาปาองค์สำคัญแห่งอาวีญง
ในช่วงเวลาดังกล่าว กษัตริย์แห่งฝรั่งเศส Phillip the Fair ได้เริ่มเข้ามามีบทบาทครอบงำศาสนจักรมากขึ้น
ปี 1377 พระสันตะปาปา Gregory XI จึงได้ย้ายกลับไปยังโรมอีกครั้ง
เมื่อพระสันตะปาปา Gregory XI ได้สิ้นพระชนม์ในปีต่อมา และเลือกตั้งองค์สันตะปาปาองค์ใหม่ ปรากฎว่าทางฝรั่งเศสไม่ยอมรับพระสันตะปาปาจากทางโรม จึงได้เลือกตั้งสันตะปาปาของตนเอง (antipope) และย้ายกลับมาปกครองที่อาวีญงอีกครั้ง
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้คริสตจักรทางตะวันตกได้แบ่งแยกการปกครองออกเป็น 2 ส่วน และแก่งแย่งการครอบครองอำนาจ นำไปสู่เหตุการณ์ Great Schism
ปี1409 ได้มีความพยายามจะรวมอำนาจให้เป็นหนึ่งเดียว จึงได้แต่งตั้งสันตะปาปาแห่งปิซา ขึ้นอีก 1 องค์ เพื่อจะรวมอำนาจไว้เป็นหนึ่งเดียว
แต่เหตุการณ์กลับบานปลาย เมื่อแต่ละฝ่ายกลับแข่งขันกันเพื่อที่จะมีอำนาจปกครองสูงสุด
จนกระทั่งปี 1414-1418 ความพยายามของกลุ่มCouncil of Constance ก็ประสบความสำเร็จ โดยการปลดจากตำแหน่งของสันตะปาปาแห่งอาวีญง และการลาออกของสันตะปาปาแห่งกรุงโรม จากนั้นทำการเลือกตั้งสันตะปาปาองค์ใหม่ เพื่อปกครองคริสตจักรเพียง หนึ่งเดียว คือสันตะปาปาMartin V (1417-1431)
และในที่สุดคริสตจักรก็ได้ย้ายกลับไปยังวาติกัน เป็นศูนย์กลางแห่งศาสนคริสต์จนปัจจุบัน
บรรยากาศในเมืองอาวีญงจึงเข้าสู่ความเงียบสงบ ถูกทิ้งร้าง แม้ว่าวังพระสันตะปาปาจะได้รับคืนให้อยู่ภายใต้การปกครองของพระสันตะปาปาอีกเป็นเวลา 350 ปีต่อมา แต่สภาพของวังก็ค่อย ๆ เสื่อมโทรมลงแม้ว่าจะมีการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นในปี ค.ศ. 1516 ก็ตาม
ระหว่างการปฏิวัติฝรั่งเศส ปี 1789 วังพระสันตะปาปาก็ถูกยึดโดยนักปฏิวัติแม้ว่าสภาพของวังจะอยู่ในสภาพที่เสื่อมโทรมอยู่แล้วก็ตาม ในปี ค.ศ. 1791 วังพระสันตะปาปาก็กลายเป็นที่เกิดเหตุการสังหารหมู่ของฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปฏิวัติ
ต่อมาวังก็ถูกยึดโดยรัฐบาลของนโปเลียนเพื่อใช้เป็นค่ายทหารและคุก ตัววังก็ได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นอีกระหว่างการถูกยึดโดยเฉพาะจากฝ่ายที่ต่อต้านนักบวชของสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 3
สิ่งตกแต่งภายในและงานไม้ต่างๆ ถูกขนย้ายออกไปเพื่อทำเป็นโรงม้า จิตรกรรมฝาผนังถูกฉาบทับและถูกทำลายไปเป็นส่วนใหญ่
วังเป็นสถานที่ราชการของรัฐบาลฝรั่งเศสมาจนถึงปี ค.ศ. 1906 เมื่อมาเปลี่ยนฐานะเป็นพิพิธภัณฑ์ และตั้งแต่นั้นมาวังก็ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาโดยตลอด
ปัจจุบันอาวีญง คึกคักอีกครั้งด้วยนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้าไปชมความยิ่งใหญ่ ความงามในอดีต ของสถานที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคู่แข่งกับศาสนจักรแห่งโรม ด้านซ้ายของพระราชวังคือ มหาวิหารNotre Dame des Doms ซึ่งเป็นมหาวิหารในลักษณะRomanesque สร้างขึ้นในศตวรรษที่12
ศิลปะน่ารักบนหน้าต่างๆ บนตึกข้างๆพระราชวัง
Leave a Reply