เมื่อเท้าก้าวแรกแตะพื้นดินสนามบิน Gonder Atse Teodros ท้องฟ้าเอธิโอเปียยังคงกว้างและโปร่งเหมือนเดิม แต่ที่ต่างออกไปคืออากาศเย็นกว่าอัคซุมเล็กน้อย และมีกลิ่นของเมืองที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางอำนาจอันยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิ
วันนี้เรามุ่งสู่เมือง Gonder หรือ Gondar เมืองหลวงเก่าในสมัยจักรพรรดิฟาซิลิดาส (Fasilidas) ผู้ก่อตั้งราชวงศ์กอนดาเรียนในศตวรรษที่ 17 ที่นี่…ไม่ใช่แค่เมืองธรรมดา แต่มันคือ “แอฟริกันคาเมรอท” —African Camelot ชื่อเล่นที่นักเดินทางและนักประวัติศาสตร์มอบให้ เพราะที่นี่คือเมืองแห่งวังหินกลางป่าดิบเขา ที่ราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย
เราเริ่มต้นที่ พระราชวังหลวงแห่ง Gonder (Royal Enclosure หรือ Fasil Ghebbi) กลุ่มวังโบราณที่ตั้งตระหง่านบนที่สูง ล้อมรอบด้วยกำแพงหินสูงลิ่ว พื้นที่ข้างในเต็มไปด้วยพระราชวังหลายหลัง สถาปัตยกรรมเป็นการผสมผสานระหว่างสไตล์เอธิโอเปียนพื้นถิ่นกับอิทธิพลจากโปรตุเกสและอาหรับ ฉันเดินผ่านกำแพงหินที่กร่อนตามกาลเวลา เหยียบย่างบนทางเดินโบราณที่คดเคี้ยวไปตามกลุ่มอาคาร
วังของจักรพรรดิฟาซิลิดาสนั้นดูเคร่งขรึมแต่สง่างาม หอคอยทรงกลมที่ยื่นออกมาจากมุมวัง ชวนให้นึกถึงปราสาทในยุโรปยุคกลาง…ไม่มีคำไหนจะเหมาะเท่ากับ “คาเมรอทแห่งแอฟริกา” จริง ๆ

แต่ทำไมจักรพรรดิฟาซิลิดาสจึงเลือกสร้างเมืองหลวงถาวรที่นี่?
ในอดีต เอธิโอเปียไม่มีเมืองหลวงถาวร กษัตริย์จะพาเหล่าข้าราชบริพารและราชสำนักเร่ร่อนไปตามแหล่งน้ำและพื้นที่อุดมสมบูรณ์ การเลือกตั้ง Gonder ให้เป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ พระองค์ทรงเลือกพื้นที่นี้เพราะทำเลปลอดภัย อยู่ใกล้ทะเลสาบทานาและแม่น้ำบลูไนล์ อีกทั้งตามตำนานท้องถิ่น นกศักดิ์สิทธิ์เคยบินวนเหนือพื้นที่นี้เป็นวงกลม—นิมิตแห่งความศักดิ์สิทธิ์ที่ยากจะมองข้าม



นอกจากนั้น สถาปัตยกรรมของเมืองนี้ก็สะท้อนประวัติศาสตร์ของเอธิโอเปียที่มีการเชื่อมโยงกับโลกภายนอกอย่างน่าทึ่ง—ทั้ง โปรตุเกส และ อาหรับ
ในศตวรรษก่อนหน้า โปรตุเกสเคยส่งทหารและมิชชันนารีเข้ามาเกี่ยวข้องกับเอธิโอเปียเพื่อช่วยต่อต้านศัตรูต่างศาสนา ช่างฝีมือและวิศวกรโปรตุเกสบางคนจึงฝากฝีไม้ลายมือไว้ในวังและป้อมปราการของ Gonder ส่วนอิทธิพลจากอาหรับและอียิปต์ก็มาจากสายสัมพันธ์ทางศาสนาและการค้าอันยาวนาน จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นหน้าต่างโค้งสไตล์อาหรับควบคู่กับป้อมหินทรงยุโรปอยู่ในพื้นที่เดียวกัน

ศรัทธาใต้ร่มเงาเทวดา: เยือนโบสถ์ Debre Berhan Selassie
ช่วงสาย เราแวะไปที่ โบสถ์เดอบอรา เบอร์ฮาน เซสาสซี (Debre Berhan Selassie Church) โบสถ์เก่าแก่ที่ตั้งอยู่เงียบสงบท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ แต่ทันทีที่เข้าไปถึง เรากลับพบกับความมีชีวิตชีวาอย่างน่าประหลาด
วันนั้น มีผู้คนจำนวนมากมาทำบุญ—ทุกคนในชุดขาวบริสุทธิ์ เรียบง่ายและสง่างาม ผืนผ้าที่พวกเขาคลุมไหล่เรียกว่า “shamma” เป็นผ้าทอมือประจำวัฒนธรรมของเอธิโอเปียที่มักสวมใส่เมื่อเข้าร่วมพิธีทางศาสนา ทั้งในโบสถ์และบนสนามหญ้ารอบๆ มีผู้คนหลั่งไหลมาร่วมสวดมนต์ จุดเทียน บางคนนั่งสงบ บางคนหลับตา บางคนไหว้เบา ๆ ต่อหน้าโบสถ์ — ทุกอิริยาบถเต็มไปด้วยศรัทธาและความสงบเย็น
อาคารโบสถ์มีจุดหนึ่งที่สะดุดตาเป็นพิเศษ—สิงห์โตหิน แกะสลักอยู่เหนือประตู เป็นสัญลักษณ์ของ “สิงห์แห่งยูดาห์” ซึ่งถือเป็นเครื่องหมายประจำราชวงศ์เอธิโอเปียที่เชื่อมโยงกับกษัตริย์โซโลมอนและพระนางชีบา สิงห์โตไม่ได้มีไว้เพื่อข่มขู่ แต่มันยืนเป็นผู้พิทักษ์ ทั้งศรัทธา ประวัติศาสตร์ และความมั่นคง
ภายในโบสถ์ ผนังประดับด้วยภาพเฟรสโก และเพดานไม้เต็มไปด้วย “เทวดาหน้ากลม” ที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ ทุกดวงหน้าจ้องมองลงมาอย่างอ่อนโยน ทำให้เราเหมือนได้รับการต้อนรับจากดินแดนที่อยู่เหนือคำพูด
มีธรรมเนียมสำคัญหนึ่งที่ควรรู้ — ผู้หญิงที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือนจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปภายในโบสถ์ โดยถือเป็นช่วงเวลาที่ไม่บริสุทธิ์ตามแนวทางของศาสนาออร์โธดอกซ์เอธิโอเปีย ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่มีรากมาจากพระคัมภีร์เก่า และยังคงถือปฏิบัติอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เช่นที่นี่




ปิดท้ายวันกับพลังศรัทธาในสายน้ำ: สระน้ำของพระเจ้าฟาซิลิดาส
สุดท้ายของวัน เราไปยืนอยู่ริมสระน้ำโบราณกลางต้นไม้สูงใหญ่ — สระน้ำของพระเจ้าฟาซิลิดาส (Fasilides’ Bath) แม้วันนี้สระจะว่างเปล่า มีเพียงน้ำขังตื้น ๆ ในมุมหนึ่ง แต่สถานที่นี้กลับเป็นหัวใจสำคัญของพิธีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศาสนาออร์โธดอกซ์เอธิโอเปีย — พิธีทิมกัต (Timkat)
ทิมกัต คือพิธีเฉลิมฉลองการรับศีลล้างบาปของพระเยซูในแม่น้ำจอร์แดน ที่จัดขึ้นทุกวันที่ 19 มกราคมของทุกปี (หรือ 20 มกราคมในปีอธิกสุรทิน) เป็นช่วงเวลาที่ Tabot — หีบพันธสัญญาจำลองจากแต่ละโบสถ์ — จะถูกแห่ไปยังแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์อย่างที่นี่ บรรยากาศเต็มไปด้วยการสวดมนต์ ขับร้องเพลงสรรเสริญ ธงหลากสีสะบัดกลางอากาศ และผู้ศรัทธาหลายพันคนในชุดขาวจะลงไปในน้ำ เพื่อรับการโปรยน้ำศักดิ์สิทธิ์ — สัญลักษณ์ของการล้างบาป
ผู้เข้าร่วมพิธีมีทั้งชาวบ้าน นักบวช เด็ก ๆ และแม้แต่คนจากต่างประเทศที่เดินทางมาร่วมด้วยศรัทธา สื่อบางแห่งระบุว่าในแต่ละปีมีผู้เข้าร่วมหลักหมื่นหรือมากกว่านั้นในเมือง Gonder เพียงแห่งเดียว









Leave a Reply