ก่อนเดินทางมาเอธิโอเปีย ฉันแทบไม่เคยได้ยินชื่อเมือง Harar มาก่อนเลย แต่เมื่อเห็นโปรแกรมทัวร์ระบุว่า “การเดินทางตามรอยประวัติศาสตร์ของเอธิโอเปียจะไม่สมบูรณ์หากปราศจากการมาเยือนเมืองโบราณHarar” ฉันก็รู้ทันทีว่านี่คงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องไปสัมผัสด้วยตัวเอง
จากแอดดิส อบาบา สู่เมืองHarar
การเดินทางเริ่มจาก แอดดิส อบาบา (Addis Ababa) เมืองหลวงของเอธิโอเปีย ก่อนมุ่งหน้าสู่ Dire Dawa ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ห่างจาก Harar ประมาณ 55 กม. จากที่นี่ เราเดินทางต่อไปยังเมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสลามในแอฟริกา”
คนขับรถพาเราออกจากโรงแรม แล่นไปตามถนนสายหลักระหว่างเมือง Dire Dawa – Harar สภาพถนนดีกว่าที่คิด ทำให้การเดินทางราบรื่น ไกด์ของเราชี้ให้ดู โรงงานผลิตปูนซีเมนต์ ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่นอกเมือง Dire Dawa ด้วยความภูมิใจ น่าจะเป็นโรงงานที่เพิ่งเปิดดำเนินการได้ไม่นาน และดูเหมือนจะสร้างงานให้กับชุมชนในแถบนี้ไม่น้อย
ฉันนั่งมองสองข้างทางด้วยความตื่นเต้น การนั่งรถชมทิวทัศน์เป็นสิ่งที่ฉันชอบเป็นพิเศษ เพราะมันเปิดโอกาสให้เราได้เห็น วิถีชีวิตของคนท้องถิ่น ผ่านหน้าต่างรถ ฉันสังเกตเห็นกระท่อมหลังเล็ก ๆ กระจายอยู่ตามพื้นที่โล่งกว้าง บางแห่งมีฝูงแพะและอูฐเล็มหญ้าอยู่ไม่ไกลจากถนน ผู้คนที่เดินเท้าไปมาแต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองที่มีลวดลายและสีสันโดดเด่น ฉันคิดอยู่เสมอว่าบางครั้ง สิ่งที่พบระหว่างทาง อาจสร้างความประทับใจได้มากกว่าปลายทางเสียอีก
เมื่อรถเคลื่อนตัวไปอย่างช้า ๆ ฉันเริ่มสงสัยว่าทำไมเราถึงไปได้ช้ากว่าที่คิด จึงหันไปถามไกด์ และได้รับคำตอบว่า “ที่นี่จำกัดความเร็วค่ะ พี่” ฉันมองไปที่มาตรวัดความเร็ว เห็นตัวเลข 40 กม./ชม. เท่านั้น ฉันอดคิดไม่ได้ว่ามันช้าเกินไปหรือเปล่า? แต่พอมองออกไปข้าง ๆ รถคันอื่น ๆ ก็ยังคงแซงไปเรื่อย ๆ ฉันได้แต่หัวเราะขำ ๆ ในใจ ปล่อยให้มันเป็นไปตามจังหวะของที่นี่
ถึงรถเราจะเคลื่อนตัวช้า แต่ระหว่างทางก็ยังมีจุดที่น่าสนใจ ไกด์ชวนพวกเราลงไปสัมผัสกลิ่นอายชนบทของเอธิโอเปียที่ ไร่ข้าวฟ่าง เราแวะลงไปถ่ายรูปและเดินชมไร่เล็ก ๆ ที่มีชาวไร่กำลังเก็บเกี่ยวผลผลิต บรรยากาศสงบและเรียบง่าย ท่ามกลางแดดอ่อน ๆ ที่สาดส่องลงมายังทุ่งสีทอง
เมือง Harar และมรดกทางวัฒนธรรม
Harar ตั้งอยู่ห่างจาก Dire Dawa ประมาณ 55 กิโลเมตร บนยอดเขาที่ระดับความสูง 1,885 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทำให้แม้จะเป็นเมืองที่อยู่ต่ำกว่าหลาย ๆ เมืองในเอธิโอเปีย แต่ก็ยังมีลมเย็นพัดผ่านเป็นระยะ อุณหภูมิระหว่างวันที่เราไปเยือนอยู่ที่ประมาณ 28-31 องศาเซลเซียส ถือว่าสบายมากสำหรับคนไทยที่คุ้นชินกับอากาศร้อน
ในอดีต Harar เป็นศูนย์กลางการค้าสำคัญ เชื่อมโยงระหว่างเอธิโอเปียกับประเทศเพื่อนบ้านในแหลมแอฟริกา คาบสมุทรอาหรับ และแม้กระทั่งอินเดีย เมืองนี้เคยเต็มไปด้วยพ่อค้า ขุนนาง และศิลปินที่เดินสวนกันไปมาในตรอกซอกซอยภายในกำแพงเมือง จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งนักปราชญ์”
Harar เคยรุ่งเรืองที่สุดในช่วงศตวรรษที่ 17-18 บรรยากาศของเมืองแตกต่างจากเมืองอื่น ๆ ในเอธิโอเปียอย่างชัดเจน เพราะได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมอาหรับและแอฟริกันผสมผสานกันอย่างลงตัว ที่นี่เป็นหนึ่งในศูนย์กลางศาสนาอิสลามที่สำคัญที่สุดของทวีปแอฟริกา จนกระทั่งในปี 1887 เมืองนี้ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเอธิโอเปียโดย กษัตริย์เมเนลิคที่ 2
กำแพงเมือง Jugol ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 ยังคงยืนหยัดเป็นเอกลักษณ์สำคัญของ Harar กำแพงสูง 4 เมตรนี้มีประตูเมือง 5 แห่ง ปกป้องชุมชนที่เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรม ภายในกำแพงมีตรอกซอกซอยเล็ก ๆ คดเคี้ยว คล้ายเมือง Fes ในโมร็อกโก เต็มไปด้วยบ้านเรือนเก่าแก่นับร้อยหลัง มัสยิด 82 แห่ง และ อารามศักดิ์สิทธิ์กว่า 100 แห่ง เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงการอยู่ร่วมกันของสองศาสนาได้อย่างสงบสุข
ฉันเดินสำรวจเมืองเก่าเป็นเวลาหลายชั่วโมง ซอกซอยแคบ ๆ ใน Harar พาฉันย้อนเวลากลับไปสู่ยุคที่เมืองนี้ยังคึกคักด้วยการค้าขาย บ้านเรือนสีสันสดใสที่มีลวดลายแบบอาหรับผสมแอฟริกันตั้งเรียงรายอยู่สองฝั่งถนน บางหลังประดับด้วยลวดลายแกะสลักอย่างปราณีต บ่งบอกถึงอิทธิพลทางวัฒนธรรมที่หลากหลายของเมืองนี้
ระหว่างทาง ฉันพบมัสยิดเล็ก ๆ ซ่อนตัวอยู่ในตรอกแคบ มัสยิดเหล่านี้บางแห่งมีอายุหลายศตวรรษ และยังคงเป็นสถานที่สำคัญของชุมชนมุสลิมในเมือง Harar นอกจากนี้ ยังมี บ้านแบบ Harari ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ภายในตกแต่งด้วยเครื่องปั้นดินเผาและพรมทอมือสีสันสดใส เจ้าของบ้านบางคนเปิดบ้านให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชม ทำให้ฉันได้เห็นวิถีชีวิตของชาว Harari อย่างใกล้ชิด
ฉันยังได้แวะชมตลาดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยสินค้าแฮนด์เมด ไม่ว่าจะเป็นผ้าทอมือ เครื่องเทศหอม ๆ หรือของที่ระลึกที่สะท้อนเอกลักษณ์ของเมืองนี้ ทุกซอกทุกมุมของ Harar ดูมีชีวิตชีวา เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและเสน่ห์ที่ยากจะหาได้จากที่อื่น ก่อนจะแวะเยี่ยมชม บ้าน Arthur Rimbaud นักกวีและนักเดินทางชาวฝรั่งเศสผู้มีชื่อเสียง หนึ่งในกวีแนวสัญลักษณ์ (Symbolist) ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในศตวรรษที่ 19 Rimbaud เป็นชายหนุ่มผู้รักอิสรเสรีและแสวงหาประสบการณ์แปลกใหม่ เขาเดินทางมายัง Harar ในช่วงปลายชีวิต หลังจากละทิ้งวงการวรรณกรรมและหันมาประกอบธุรกิจค้ากาแฟและสินค้าต่าง ๆ กับพ่อค้าท้องถิ่น บ้านของเขาถูกดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงภาพถ่ายหายากของ Harar ในอดีต รวมถึงเอกสารและสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของเขาในแอฟริกา
การได้เดินผ่านห้องต่าง ๆ ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนก้าวย้อนเวลาไปในยุคที่ Harar ยังคงคึกคักไปด้วยพ่อค้าต่างชาติ และ Rimbaud กำลังดำเนินธุรกิจของเขา ภาพถ่ายขาวดำที่แสดงถึงสถาปัตยกรรม วิถีชีวิต และบรรยากาศของเมืองในยุคก่อนทำให้ฉันนึกถึงบทกวีของเขา—เต็มไปด้วยจินตนาการ ความอิสระ และความหลงใหลในโลกกว้าง บ้านหลังนี้ไม่ได้เป็นเพียงที่อยู่อาศัยของกวีผู้รักการเดินทาง แต่ยังเป็นหน้าต่างที่เปิดไปสู่ประวัติศาสตร์อันยาวนานของ Harar อีกด้วย








วิถีชีวิตและตลาดค้า Khat
Harar ไม่เพียงแต่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ แต่ยังเป็นศูนย์กลางของตลาด Khat ซึ่งเป็นหนึ่งในสินค้าสำคัญของภูมิภาคนี้ Khat เป็นพืชที่ใช้ใบมาเคี้ยวให้ความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า คล้ายใบกระท่อมในบ้านเรา แต่ก็มีฤทธิ์ให้มึนเมา จึงเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ชาวมุสลิม และแพร่หลายไปทั่วคาบสมุทรแอฟริกาและอาหรับ
ไกด์เห็นพวกเราสนใจ จึงชวนลงไปเดินสำรวจตลาดใกล้ชิด บรรยากาศเต็มไปด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อขาย Khat อย่างขวักไขว่ เสียงต่อรองราคาดังระงม มีแผงขายใบ Khat สดใหม่จากไร่ มัดเป็นกำ ๆ วางเรียงรายอยู่บนผ้าผืนใหญ่ บางคนกำลังทดลองเคี้ยวใบ Khat อยู่ตรงนั้นเลย ฉันสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่ไหลเวียนอยู่ในตลาดแห่งนี้ แม้ว่าสินค้าที่พวกเขาค้าขายจะเป็นสิ่งที่หลายประเทศห้ามปราม แต่ที่นี่มันเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตและเศรษฐกิจของชาวไร่โดยแท้จริง




บรรยากาศของเมืองเต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา แม้จะไม่คึกคักเหมือนในอดีต แต่ยังคงพบเห็น ผู้หญิง Harari ในชุดผ้าคลุมสีสดใส และชายหนุ่มที่ดำรงวิถีชีวิตดั้งเดิมของพวกเขาได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีกลิ่นหอมของกาแฟอบอวลตามตรอกซอกซอย เมืองนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในต้นกำเนิดของวัฒนธรรมกาแฟเอธิโอเปีย
การเปลี่ยนแปลงของ Harar และบทบาทที่ลดลง
Harar เคยเป็นเมืองศูนย์กลางของภูมิภาค แต่บทบาทของมันเริ่มลดลงในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เมื่อทางการเอธิโอเปียมีโครงการสร้างทางรถไฟเพื่อเชื่อมต่อประเทศกับเมืองท่าจิบูตี โครงการแรกเริ่มมีแผนจะให้เส้นทางรถไฟพาดผ่าน Harar แต่ด้วยภูมิประเทศที่สูงและงบประมาณที่เพิ่มขึ้น ทางการจึงตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางมายังเมืองใหม่ที่กษัตริย์เมเนลิคที่ 2 ตั้งชื่อว่า Addis Harar หรือที่ปัจจุบันเรียกว่า Dire Dawa
Dire Dawa เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งใหม่ของภูมิภาค ความเจริญที่เคยอยู่ใน Harar จึงค่อย ๆ เคลื่อนย้ายออกไป ทำให้เมืองเก่าแห่งนี้สูญเสียบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจ แม้ว่าจะยังคงความเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม การลดบทบาทของ Harar กลับทำให้เมืองนี้สามารถคงไว้ซึ่งบรรยากาศเก่าแก่และเสน่ห์ดั้งเดิม ตรอกซอกซอยที่ยังคงเอกลักษณ์ กำแพงโบราณที่ยังคงตั้งตระหง่าน และวิถีชีวิตที่ดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
ฉันเดินกลับขึ้นรถด้วยความรู้สึกเต็มอิ่มกับเมือง Harar เมืองที่เต็มไปด้วยเรื่องราว และความมีชีวิตชีวาที่ทำให้การเดินทางครั้งนี้มีความหมายมากยิ่งขึ้น







Leave a Reply