Nim Journey

A Legend of Travel

Posted in , ,

ฉันยอมนั่งรถไฟ 2 วัน 2 คืน เพราะเพลงเพลงหนึ่งที่ได้ยินเมื่อหลายปีก่อน วาดฝันไว้ว่าถ้าได้นั่งรถไฟไปทิเบต จะฟังเพลงนี้ไปเรื่อยๆ คงเข้ากับบรรยากาศดีแท้ แม้ว่าในยุคปัจจุบัน ภาพของลาซาจะเปลี่ยนไปจากที่เคยจินตนาการ พระราชวังโปตาลาที่เคยยืนเด่นกลางธรรมชาติ บัดนี้โอบล้อมด้วยอาคารสมัยใหม่และถนนกว้างขวาง แต่ฉันไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านั้นมากนัก เพราะเป้าหมายหลักของฉันคือการเดินทางบนรถไฟสายที่สูงที่สุดในโลก เพื่อดื่มด่ำกับวิวและความสงบระหว่างทาง

หลายคนบอกว่าไม่ควรนั่งรถไฟนานขนาดนั้น ส่วนใหญ่จะขึ้นจากเมืองซิหนิงเพื่อนั่งเพียงคืนเดียว เพราะวิวที่สวยงามจริงๆ เริ่มหลังจากซิหนิงไปแล้ว แต่ฉันกลับคิดว่า จะรีบไปไหน? การเดินทางครั้งนี้ฉันไม่ได้มุ่งแค่จุดหมายปลายทาง แต่อยากสัมผัสบรรยากาศของการนั่งรถไฟยาวๆ ให้เต็มอิ่ม วัดทิเบตฉันคงได้เห็นมากมายเมื่อถึงที่นั่นอยู่แล้ว นั่งรถไฟยาวๆ แบบนี้ต่างหากคือโอกาสที่หาได้ยาก ฉันต้องการให้ทุกช่วงเวลาของการเดินทางมีความหมาย แม้จะเป็นเพียงแค่การนั่งอยู่ในตู้รถไฟ เฝ้าดูโลกภายนอกที่เปลี่ยนแปลงไปช้าๆ

เส้นทางรถไฟเฉิงตู-ลาซา มีระยะทางกว่า 3,360 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 48 ชั่วโมง ขบวนของเรามีบริการวันเว้นวัน เราไปถึงสถานีตั้งแต่บ่าย 4 โมงเย็น ต้องรอจนถึง 6 โมงเย็นถึงจะเข้าไปนั่งรอในสถานีได้ ภาพที่เห็นคือฝูงชนทั้งชาวจีนและนักท่องเที่ยวจากที่ต่างๆ รออยู่หน้าอาคารสถานีจำนวนมาก ฉันและเพื่อนร่วมทาง 7 คน เลือกที่นั่งแบบ Soft Sleeper ห้องละ 4 เตียง แต่เราไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันทั้งหมด โชคดีที่อยู่ติดกัน เดินไปมาหากันสะดวก ภายในห้องมีไฟหัวเตียง ที่นอนสะอาด และจอ LCD ประจำเตียง แต่ทั้งปลั๊กไฟและจอ LCD ใช้งานไม่ได้ ทำให้ฉันต้องล้มเลิกแผนการฟังเพลงไปโดยปริยาย และเปลี่ยนเป็นฟังเพลงจีนที่เปิดบนรถไฟแทน

บริเวณหัวและท้ายของแต่ละตู้มีห้องน้ำ และจุดล้างหน้า พร้อมกาต้มน้ำร้อนให้บริการ แม้ห้องน้ำจะไม่ได้สะอาดนัก แต่ก็ไม่ถึงกับทนไม่ไหว พนักงานทำความสะอาดอยู่เป็นระยะ ผู้โดยสารส่วนใหญ่นำบะหมี่สำเร็จรูปมาด้วย ซึ่งสะดวกมากเพราะมีน้ำร้อนให้ตลอด ส่วนพวกเราฝากท้องไว้กับตู้เสบียงและอาหารที่พนักงานเข็นมาขายเป็นระยะ อาหารจีนรสชาติดีแม้จะมันไปหน่อย บางเมนูอาจดูแปลกตา แต่รสชาติกลับอร่อยเกินคาด

วิวระหว่างทางเริ่มจากเมือง ผ่านหมู่บ้านใหญ่บ้าง เล็กบ้าง ธรรมดาแต่แปลกตาสำหรับคนที่มาจากเมืองร้อนเช่นฉัน หิมะขาวโพลนบนยอดเขาสร้างความตื่นเต้นให้เราไม่น้อย จนต้องยืนจับจ้องจากหน้าต่างรถไฟเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก ค่ำคืนนี้เราจะผ่านเส้นทางที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนร่วมทางชาวจีนแนะนำให้เตรียมยากันไว้ เพราะอาการแพ้ความสูงอาจเกิดขึ้นได้ ฉันเริ่มสังเกตถึงอากาศที่บางเบาลงเมื่อรถไฟค่อยๆ ไต่ระดับสูงขึ้น มันเป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่ที่ร่างกายต้องปรับตัวกับระดับความสูงที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

วันที่สองของการเดินทาง วิวเริ่มเปลี่ยนเป็นทุ่งหญ้า ฝูงแกะ แพะ และจามรีเล็มหญ้าอยู่ริมรางรถไฟ ในขณะที่ไกลออกไปคือเทือกเขาสูงที่ปกคลุมด้วยหิมะ รถไฟค่อยๆ ไต่ระดับสูงขึ้นไปจนถึงจุดที่สูงที่สุด 5,072 เมตรบริเวณเขาทังกูลา หลายคนเริ่มมีอาการมึนศีรษะ เราจึงไปหยิบท่อออกซิเจนที่มีให้บริการมาสูดเพื่อบรรเทาอาการ ฉันเฝ้าดูภูมิประเทศที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเส้นทาง บางพื้นที่เป็นที่ราบกว้างสุดลูกหูลูกตา บางแห่งเป็นหุบเขาที่ลึกและหนาวเหน็บ ฉันจินตนาการถึงชีวิตของคนท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สูงเหล่านี้ และรู้สึกถึงเสน่ห์ของการเดินทางที่ไม่ใช่แค่การไปถึงจุดหมาย แต่เป็นการเรียนรู้ระหว่างทาง

รถไฟมาถึงลาซาตรงเวลา 5 โมงเย็น สถานีรถไฟลาซาใหญ่โตสมกับเป็นผลงานก่อสร้างของจีนที่เน้นความยิ่งใหญ่เสมอ และที่นี่เองที่การเดินทางในดินแดนทิเบตของเรากำลังจะเริ่มต้น โดยมีไกด์ชาวทิเบตมาคอยต้อนรับและนำทางเราเข้าสู่หัวใจของทิเบตแท้ๆ ฉันตื่นเต้นที่จะได้สัมผัสวัฒนธรรม ศาสนา และวิถีชีวิตของชาวทิเบตด้วยตนเอง

เส้นทางรถไฟสายชิงไห่-ทิเบต เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2006 ถือเป็นเส้นทางรถไฟที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงที่สุดสายหนึ่ง เพราะต้องวิ่งผ่านพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 4,000 เมตรเกือบตลอดทาง รวมถึงจุดที่สูงที่สุดในโลกซึ่งเคยเป็นสถิติของเปรู ระบบรางต้องออกแบบให้รองรับการเปลี่ยนแปลงของชั้นดินที่เป็นน้ำแข็งด้วยการติดตั้งท่อทำความเย็นใต้รางเพื่อรักษาสภาพพื้นดินให้คงที่

แม้การก่อสร้างเส้นทางนี้จะเป็นความก้าวหน้าทางวิศวกรรม แต่มันก็นำปัญหามาสู่ทิเบตมากมายเช่นกัน การเดินทางเข้าถึงง่ายขึ้น ทำให้มีชาวจีนฮั่นอพยพเข้ามาเป็นจำนวนมาก ส่งผลต่อวิถีชีวิต ศาสนา และวัฒนธรรมของชาวทิเบตที่กำลังถูกกลืนไปทีละน้อย หลายพื้นที่มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็ว แต่ชาวทิเบตแท้ๆ กลับไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนานั้นอย่างแท้จริง

รถไฟขบวนนี้อาจนำพาความเปลี่ยนแปลงมาสู่ทิเบต แต่สำหรับฉัน มันคือประสบการณ์ชีวิตที่ครั้งหนึ่งได้เดินทางบนเส้นทางที่สูงที่สุดในโลก ได้เห็นความงามของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ และได้เข้าใกล้ทิเบตในแบบที่ฉันอยากเห็น ไม่ใช่เพียงภาพในจินตนาการอีกต่อไป

Leave a Reply

เว็บนี้ใช้ Akismet เพื่อลดสแปม. เรียนรู้ว่าข้อมูลแสดงความเห็นของคุณถูกประมวลผลอย่างไร.

สมัครเป็นสมาชิก

Enter your email below to receive updates.