อาการเจ็บขายังไม่ดีขึ้น ทำให้เช้านี้ฉันตัดสินใจขอบายอาหารเช้าจาก KFC แล้วเลือกนอนพักต่ออีกหน่อย นี่เป็นวันสุดท้ายของการเที่ยวไต้หวัน และที่จริงแล้ว เราควรไปเก็บตกสถานที่สุดท้ายของทริปที่ Taipei 101 ซึ่งพลาดไปเมื่อวานเพราะรถติด แต่สุดท้ายพวกเราก็เลือกเส้นทางของนักเดินทางสายกินแทน 555
Wil Beck Cafe: ร้านกาแฟใกล้ที่พัก
ร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่แอบมองตั้งแต่วันแรกที่มาถึง วันนี้เราตัดสินใจแวะไปนั่งพักผ่อน ถ่ายรูป และพูดคุยกับพนักงานร้านกันอย่างสนุกสนาน บรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเองมาก จนเราเผลอใช้เวลาอยู่นานเกือบชั่วโมง กว่าจะรู้ตัวก็ถึงเวลาต้องไปจุดหมายต่อไปของวัน นั่นคือ ติ่มซำเจ้าดังระดับตำนาน
Din Tai Fung: ตำนานติ่มซำระดับโลก
จากสถานี Taipei Main Station เรานั่งรถไฟสายสีน้ำเงินไปลงที่สถานี Zhongxiao Dunhua ออกทางออกที่ 3 จากนั้นเดินเลี้ยวขวาที่แยกที่สอง ตรงไปจนถึงไฟแดง ข้ามถนนไปก็จะเจอร้าน Din Tai Fung
แผนเดิมเราตั้งใจมาถึงตอน 11 โมง แต่ดันเพลินอยู่ที่ร้านกาแฟ เลยถึงตอนเที่ยงเป๊ะ ๆ คิวที่ได้รับคือคิวที่ 25! มีทั้งนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นและคนไต้หวันมายืนรอกันคึกคัก แสดงให้เห็นว่าร้านนี้ดังขนาดไหน
พนักงานต้อนรับดีมาก จัดคิวและนำเมนูมาให้เลือกสั่งระหว่างรอ ร้านเปิดตั้งแต่ 10.00 น. หากอยากเลี่ยงคิวยาว ๆ ควรมาตั้งแต่ร้านเปิด หลังจากรอคิวราวครึ่งชั่วโมง เราก็ได้เข้าไปนั่งด้านใน พนักงานบริการรวดเร็วทันใจ อาหารที่สั่งมาก็อร่อยทุกจาน โดยเฉพาะเสี่ยวหลงเปาที่ขึ้นชื่อ แต่ที่ทำให้พวกเรางงสุด ๆ คือ ซาลาเปาที่มาเสิร์ฟในรังถึงขนาดใหญ่ แต่ข้างในมีแค่ลูกเดียว! สงสัยตอนสั่งต้องระบุจำนวนลูกด้วย แต่ไม่เป็นไร เพราะเราสั่งอย่างอื่นมาเต็มโต๊ะ มื้อนี้ทุกคนทานกันเอร็ดอร่อย จนต้องยกนิ้วให้ว่าคุ้มค่ากับการรอคิว
ที่พีคที่สุดคือ ห้องน้ำของร้าน! สไตล์ญี่ปุ่นสุดไฮเทค มีทั้งปุ่มล้าง ปุ่มเสียงเพลง สมกับเป็นร้านดังระดับโลก ถ้ามีโอกาสไปไต้หวันอีก ฉันคงไม่พลาดมาที่นี่อีกรอบแน่นอน!
ปิดทริป: เดินทางกลับบ้าน
หลังมื้อกลางวัน เราประเมินเวลาแล้วว่าไป Taipei 101 ไม่ทันแน่ ไหนจะต้องเดินทางไปสนามบิน ไหนจะอาการขาที่ยังเจ็บอยู่ ฉันจึงตัดสินใจกลับโรงแรม เก็บกระเป๋า แล้วไปสนามบินแต่เนิ่น ๆ
ขากลับเราใช้บริการรถบัส Kuo-Kuang เหมือนเดิม ค่ารถ 125 NT$ รถไม่ติดมาก เรามาถึงสนามบินตอน 16.30 น. ทันเวลาสำหรับเช็คอิน โหลดกระเป๋า และช้อปของที่ระลึก ราคาสินค้าในสนามบินสูงกว่าข้างนอกเล็กน้อย แต่ก็ยังพอรับได้
ไฟลท์ขากลับของ AirAsia ดีเลย์เล็กน้อย เนื่องจากหมอกหนา ลูกเรือดูไม่ค่อยเอ็นเตอร์เทนเท่าขามา และกัปตันไม่ได้ประกาศอะไรเลย ทำให้รู้สึกแอบกังวลนิดหน่อย แต่สุดท้ายเครื่องก็มาถึง สนามบินสุวรรณภูมิ อย่างปลอดภัย
ไทเป เมืองที่น่าหลงใหล
ถึงแม้ทริปนี้จะมีสิ่งที่ไม่ได้เป็นไปตามแผน เช่น อาการเจ็บขาและการพลาดชม Taipei 101 แต่ฉันก็ยังรู้สึกประทับใจกับการเดินทางครั้งนี้ไม่น้อย
ไทเปเป็นเมืองที่มีระเบียบ สะอาด และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ทั้งในด้านอาหาร สถาปัตยกรรม และวิถีชีวิต ผู้คนเป็นมิตรและให้ความช่วยเหลือดี เมืองนี้เป็นเหมือนจุดเชื่อมต่อของเอเชียที่กำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างมีเอกลักษณ์ เป็นจีนในเวอร์ชันที่เปิดกว้างและพัฒนาไปอีกขั้น แม้จะเคยถูกมองว่าเป็น “ประเทศแห่งการลอกเลียนแบบ” แต่ปัจจุบันไต้หวันได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นของตนเอง
หากมีโอกาส ฉันอยากกลับไปสัมผัสไต้หวันอีกครั้ง เพราะที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่ตึกสูง อาหารอร่อย หรือวัฒนธรรมที่น่าสนใจ แต่ยังเป็นสถานที่ที่ทำให้ฉันได้มองเห็นเอเชียในมุมใหม่—มุมที่เต็มไปด้วยพลังและความตั้งใจที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างภาคภูมิใจในความเป็นตัวเอง
Nim Journey 
Leave a Reply