Nim Journey

A Legend of Travel

Posted in , ,

รุ่งเช้าของวันใหม่ ฉันมองออกไปนอกหน้าต่างรถ เห็นภูเขาสีขาวราวกับปกคลุมไปด้วยหิมะตัดกับแสงอาทิตย์แรกของวัน เบื้องล่าง หมู่บ้านเล็ก ๆ ตั้งเรียงรายอยู่รอบ ๆ เนินเขาหินปูน ปลุกความอ่อนล้าให้ตื่นขึ้นมาด้วยความตื่นตาตื่นใจ คนขับรถ Dolmuş ที่พาพวกเรามาจากเมืองเดนิซลี (Denizli) หันมายิ้มก่อนพูดย้ำกับเราด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจว่า

“เห็นไหมข้างหน้า ปามุกคาเล่ ผมไม่ได้โกหกพวกคุณ”

การเดินทางสู่ปามุกคาเล่

ฉันและเพื่อน ๆ เดินทางมาถึงเมืองเดนิซลีในช่วงเช้ามืด จากนั้นต้องต่อรถมินิบัสไปยังปามุกคาเล่ โดยในตอนแรกเราลังเลว่าจะรอรถจากทางโรงแรมมารับดีหรือไม่ เพราะข้อมูลที่เราได้ศึกษามาแจ้งว่ามีรถโดยสารขนาดเล็กให้บริการในราคาเพียง 8 ลีรา แต่ความกังวลใจเกี่ยวกับค่าบริการที่อาจถูกโก่งราคาทำให้เราชั่งใจอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายเมื่อคนขับรถบอกว่าโดยสารฟรี พวกเราจึงตัดสินใจขึ้นไปกับเขา นักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ ก็ทยอยขึ้นตามมา ทำให้เรารู้สึกอุ่นใจว่าน่าจะปลอดภัย

เมื่อถึงท่ารถในปามุกคาเล่ ชายชราผู้หนึ่งขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาหาเรา นั่นคือคุณลุง Wisseburg เจ้าของที่พักที่เราจองไว้ โชคดีที่เราเลือกมากับรถมินิบัส เพราะลุงมารออยู่ที่นี่ ไม่ใช่ที่เดนิซลี มิฉะนั้นเราคงต้องเสียค่าโดยสารอีกรอบเพื่อเข้ามาในตัวเมืองปามุกคาเล่

ความมหัศจรรย์แห่งปามุกคาเล่

จากที่พัก เราใช้เวลาเพียงห้านาทีเดินไปยังทางเข้าตีนเขาหินปูนสีขาว ด้านหน้ามีสระน้ำขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยสวนสาธารณะอันร่มรื่น สร้างเสริมให้ภูเขาดูงดงามราวกับฉากในเทพนิยาย

ปามุกคาเล่ (Pamukkale) ซึ่งแปลว่า “ปราสาทปุยฝ้าย” เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่เกิดจากน้ำพุร้อนใต้ดินไหลผ่านชั้นหินปูนสะสมตัวมานานนับพันปี ทำให้เกิดชั้นหินสีขาวสะอาดตาเป็นริ้วคล้ายม่านน้ำตกที่แข็งตัว ผืนหินปูนเหล่านี้ถูกเรียกว่า “Travertines” เป็นลักษณะเฉพาะที่พบได้ในไม่กี่แห่งบนโลก

ตำนานและประวัติศาสตร์แห่งเฮียราโพลิส

เหนือปามุกคาเล่ขึ้นไป คือเมืองโบราณ เฮียราโพลิส (Hierapolis) เมืองที่ก่อตั้งขึ้นในสมัยกรีกโบราณและรุ่งเรืองอย่างยิ่งในยุคโรมัน กษัตริย์แห่งแคว้นแพร์กามุม (Pergamon) เป็นผู้สร้างเมืองนี้ขึ้นราว 190 ปีก่อนคริสตกาล โดยชื่อ “เฮียราโพลิส” แปลว่า “นครศักดิ์สิทธิ์” เนื่องจากชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนที่นี่มีพลังบำบัดโรค ทำให้ผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางมาเพื่อรักษาอาการป่วย นักปราชญ์ กษัตริย์ และชนชั้นสูงหลายพระองค์ รวมถึงจักรพรรดิเนโรและเฮเดรียน ต่างเคยเสด็จมาสรงน้ำที่นี่

เฮียราโพลิสเต็มไปด้วยซากปรักหักพังของโรงอาบน้ำ โรงละคร และถนนโบราณ สะท้อนถึงความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรโรมันในอดีต เมืองเคยเผชิญกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในศตวรรษที่ 1 ก่อนจะถูกสร้างขึ้นใหม่ให้ใหญ่โตและยิ่งใหญ่กว่าเดิม ปัจจุบันที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก

ความพยายามในการอนุรักษ์

ในอดีต โรงแรมหลายแห่งถูกสร้างขึ้นริมขอบบ่อน้ำแร่ด้านบน และนักท่องเที่ยวสามารถลงไปเล่นน้ำในแอ่งน้ำธรรมชาติได้โดยไม่มีการควบคุม ส่งผลให้หินปูนเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วจากสารเคมีและของเสียต่าง ๆ เช่น สบู่ แชมพู และเครื่องดื่มที่ปนเปื้อนลงไป

เมื่อปัญหารุนแรงขึ้น ทางการตุรกีจึงออกมาตรการเข้มงวด โดยรื้อถอนโรงแรมบนยอดเขา จำกัดการเข้าถึงเฉพาะเส้นทางที่กำหนด และห้ามสวมรองเท้าขณะเดินบนชั้นหินปูนเพื่อลดการสึกกร่อน นอกจากนี้ น้ำแร่ยังถูกนำไปให้บริการในโรงแรมแบบสปาในบริเวณใกล้เคียงแทน ทำให้รูปแบบการท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

แม้ปามุกคาเล่จะไม่ได้คึกคักเช่นในอดีต แต่มันยังคงเป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่การเยือน ด้วยความงามทางธรรมชาติที่หาใดเปรียบ และมรดกทางประวัติศาสตร์ที่แฝงอยู่ในซากเมืองโบราณ ฉันใช้เวลานั่งแช่ขาในน้ำแร่อุ่น ๆ มองดูแสงอาทิตย์ตกสะท้อนบนชั้นหินปูนสีขาว เสียงละหมาดจากมัสยิดในหมู่บ้านเบื้องล่างดังขึ้นพร้อมกับสายลมที่พัดผ่าน ทำให้จิตใจสงบอย่างน่าประหลาด

ในอดีต ปามุกคาเล่เคยเป็นสถานที่เยียวยาผู้คนจากทั่วสารทิศ แต่ในวันนี้ มันกลับต้องการเวลาในการเยียวยาตัวเองจากผลกระทบของการท่องเที่ยว หากการอนุรักษ์ดำเนินต่อไปอย่างจริงจัง เราอาจได้เห็นปามุกคาเล่คงความงามเช่นเดิมไปอีกนับร้อยปี และเป็นมรดกให้คนรุ่นหลังได้สัมผัสความมหัศจรรย์นี้ต่อไป

Leave a Reply

เว็บนี้ใช้ Akismet เพื่อลดสแปม. เรียนรู้ว่าข้อมูลแสดงความเห็นของคุณถูกประมวลผลอย่างไร.

สมัครเป็นสมาชิก

Enter your email below to receive updates.