หลังจากร่ำลาจากลาดักค์เข้าสู่แคชเมียร์ อุณหภูมิที่ร้อนขึ้นบอกให้รู้ว่าเรากำลังเข้าสู่พื้นที่ที่ต่ำลง แม้จะไม่ถึงกับร้อนจัดเท่าเดลี แต่แดดแรงและความแออัดของศรีนาการ์ก็ทำให้ฉันที่เป็นคนเหงื่อออกง่ายถึงกับชุ่มโชกไปทั้งตัว
เมืองแห่งทะเลสาบ สวน และมัสยิด
แม้บรรยากาศจะค่อนข้างพลุกพล่าน แต่ศรีนาการ์ก็มีเอกลักษณ์ที่ชวนให้ประทับใจ หนึ่งในสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดคือ ทะเลสาบดาล (Dal Lake) ซึ่งเต็มไปด้วยเรือ ชิคาร่า (Shikara) หลากสีสันที่ลอยละล่องไปมา เป็นวิถีชีวิตของคนที่นี่อย่างแท้จริง
ที่นี่เต็มไปด้วยมัสยิดที่มีรูปแบบเฉพาะตัว ต่างจากมัสยิดทั่วไปที่มักมีมินาเร็ตสูงเสียดฟ้า บางแห่งเป็นอาคารไม้ บางแห่งมีโดมแปดเหลี่ยมสูงโปร่ง ที่นี่ให้ความสำคัญกับความงามในแบบแคชเมียร์มากกว่าการแสดงความยิ่งใหญ่ ฉันอดนึกเปรียบเทียบกับ Blue Mosque ในตุรกีไม่ได้ ที่มีมินาเร็ตถึงหกอัน ในขณะที่มัสยิดที่นี่กลับเน้นไปที่สถาปัตยกรรมและสวนที่รายล้อมเสียมากกว่า สมกับที่ศรีนาการ์ได้รับสมญานามว่า “เมืองแห่งสวนสวย”
เมืองนี้เต็มไปด้วยสวนโมกุลที่สร้างขึ้นโดยเหล่ากษัตริย์และผู้มีอำนาจในอดีต พวกเขาแข่งขันกันสร้างสวนเพื่อแสดงรสนิยม อำนาจ และบารมี ทำให้ศรีนาการ์เต็มไปด้วยสวนสาธารณะที่งดงามจนเราถึงกับเที่ยวจนเบื่อ บางแห่งต้องขอผ่าน เพราะเกรงว่าจะ “เมาดอกไม้” กันไปเสียก่อน
บ้านเรือกลางทะเลสาบ
ที่พักของเราคืนนี้เป็น Houseboat บนทะเลสาบของคุณอาเหม็ด ซึ่งให้บรรยากาศที่แตกต่างจากการพักโรงแรมทั่วไป แต่สิ่งที่ต้องระวังคือเงื่อนไขการเดินทางไปมา เนื่องจากการออกจากที่พักแต่ละครั้งต้องใช้เรือ ควรตกลงกับเจ้าของให้ชัดเจนว่ามีบริการรับส่งฟรีหรือไม่ รวมถึงค่าอาหาร เพราะบางครั้งพวกเขาจะใช้ความสนิทสนมเพื่อเพิ่มค่าบริการโดยไม่บอกล่วงหน้า
ความวุ่นวายบนท้องถนน
ศรีนาการ์เป็นเมืองใหญ่และพลุกพล่าน สไตล์การขับรถของคนอินเดียที่บีบแตรกันจนเป็นนิสัย ทำให้ฉันปวดหัวไม่น้อย คนขับรถที่นี่โวยวายกันเป็นเรื่องปกติ แค่ติดไฟแดงไม่กี่วินาทีก็มีการต่อว่ากันแล้ว ฉันเองนึกไม่ออกเลยว่าถ้าขับรถที่นี่อาจจะต้องกลายเป็นคนปากจัดกว่าตอนขับรถในกรุงเทพฯ แน่ๆ!
แผนการเดินทางที่เปลี่ยนไป
การเดินทางจากศรีนาการ์ไปเดลีไม่ง่ายอย่างที่คิด เราไปถึงสถานีรถบัสแต่พบว่าตั๋วเต็มล่วงหน้าหลายวัน แผนจึงต้องเปลี่ยนใหม่ เพื่อนที่ต้องไปเดลีตัดสินใจเดินทางไป จัมมู (Jammu) ก่อน เพราะที่นั่นเป็นศูนย์กลางการเดินทางที่มีตัวเลือกมากกว่า ส่วนฉันโชคดีที่จองตั๋วเครื่องบินจากไทยมาแล้วในราคาไม่ถึง 2,000 บาท ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาหน้างานที่พุ่งไปถึง 6,000 บาท ก็นับว่าโชคดีไม่น้อย
นั่งเรือชิคาร่าชมพระอาทิตย์ตก
ช่วงเย็น เราออกไปนั่งเรือ ชิคาร่า ชมพระอาทิตย์ตกบนทะเลสาบดาล นี่เป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเลย! เรือเหล่านี้คล้ายเรือหางยาวบ้านเราแต่ตกแต่งอย่างสวยงาม มีที่นั่งสบาย ยิ่งถ้ามาเป็นคู่คงโรแมนติกไม่น้อย
แต่ที่น่ารำคาญคือ เรือขายของ ที่เข้ามาประกบตลอดเวลา ขายตั้งแต่ไอศกรีม ของที่ระลึก ไปจนถึงบริการแต่งตัวถ่ายรูป หลายครั้งฉันต้องหลบสายตาเพื่อไม่ให้พ่อค้าแม่ค้าพายเรือเข้ามาจู่โจมราวกับฉลามเห็นเหยื่อ!

สวนสไตล์โมกุล-ยุโรป
สำรวจศรีนาการ์: สวนงาม มัสยิดงดงาม
เช้าวันรุ่งขึ้น เราเริ่มต้นด้วยการขึ้นไปชมวิวมุมสูงของเมืองที่ Shankarcharya Hill ด้านบนมีวัดฮินดูเก่าแก่ที่ต้องผ่านการตรวจเข้มเหมือนสนามบิน เพราะแคชเมียร์ยังเป็นพื้นที่อ่อนไหวทางการเมือง เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขา เราสามารถมองเห็นวิวของศรีนาการ์ได้ทั้งเมือง รวมถึงทะเลสาบดาลที่เต็มไปด้วยบ้านเรือลอยน้ำ
จากนั้น เราเดินทางไปเยี่ยมชมสวนโมกุล 3 แห่ง ได้แก่ Chesmashahi, Pari Mahal และ Nishat Bagh ซึ่งมีการออกแบบแบบเปอร์เซีย-โมกุลเต็มไปด้วยน้ำพุ บันไดไล่ระดับ และแปลงดอกไม้สีสันสดใส Nishat Bagh เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดและสวยงามที่สุดที่เราได้ไปเยือน
ช่วงบ่าย เราเดินทางไปชม Hazratbal Mosque มัสยิดสำคัญริมทะเลสาบดาลที่เก็บรักษาเส้นผมของศาสดามูฮัมหมัด ภายในมัสยิดต้องแยกทางเข้าชาย-หญิง ทำให้ฉันได้แต่ชมจากด้านนอก ต่อมาเราไปต่อที่ Jama Masjid ซึ่งจุคนได้ถึง 33,000 คน และมีสถาปัตยกรรมแคชเมียร์แท้ๆ
คืนสุดท้าย: อาหารไทยกลางศรีนาการ์
ค่ำคืนสุดท้าย เราเดินตลาดซื้อของฝากอย่างชาและเครื่องเทศ แล้วก็หาผักมาทำอาหารไทยกันเองบนเรือ เพราะเริ่มเบื่ออาหารแขกแล้ว! ฉันลงมือทำ ไข่เจียวแบบไทยๆ กรอบนอกนุ่มใน พร้อมกับพริกน้ำปลา เป็นมื้อสั่งลาที่อร่อยที่สุดของทริป
อำลาแคชเมียร์
วันสุดท้าย ฉันเกือบตกเครื่องบินเพราะการจราจรติดขัดหนักจากเหตุการณ์ความไม่สงบเมื่อคืนก่อน ลุงคนขับต้องพาฉันลัดเลาะตรอกซอกซอย และยังใจดีพาฉันไปเที่ยวบ้านของเขาก่อนลากัน ได้เจอครอบครัวของลุง เด็กๆ น่ารักวิ่งหาชุดมาเปลี่ยนเพื่อถ่ายรูปกันใหญ่
แม้ศรีนาการ์จะเต็มไปด้วยทั้งความประทับใจและความวุ่นวาย แต่ฉันรู้สึกว่าตัวเองคุ้นเคยกับเมืองนี้มากขึ้น และลึกๆ แล้ว ฉันก็แอบหวังว่า วันหนึ่งจะได้กลับมาเยือนที่นี่อีกครั้ง…






Leave a Reply