Nim Journey

การเดินทางแต่ละครั้งเต็มไปด้วยบทเรียน และสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเดินทางก็คือ “สติ” เราต้องรู้ว่ากำลังจะไปไหน ดูแผนที่ให้เป็น และอย่าหลงทิศหลงทางเด็ดขาด! สนามบินเกือบทุกแห่งมักมีแผนที่แจกฟรี หรือสามารถขอรับได้ที่ Tourist Information ซึ่งเป็นตัวช่วยที่ดีมาก

เริ่มต้นจากสนามบินอินทิรา คานธี

เมื่อเครื่องบินแตะรันเวย์ที่สนามบินอินทิรา คานธี ในนิวเดลี พวกเราก็เตรียมตัวรับมือกับเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา เดลีมีแผนที่แจกฟรีวางตามจุดต่างๆ ของสนามบิน หยิบติดมือไว้เลย จะช่วยให้การเดินทางง่ายขึ้นเยอะ

นั่งรถเมล์เข้าสู่ใจกลางเมือง

จุดหมายแรกของเราคือถนน Janpath เดิมทีตั้งใจจะนั่งแท็กซี่เข้าเมือง แต่พอสอบถามราคาแล้วตกคันละ 250 รูปี พวกเรามากัน 5 คน ซึ่งต้องใช้สองคัน เลยเปลี่ยนใจเลือกนั่งรถเมล์แทน ค่าโดยสารคนละ 50 รูปี ประหยัดไปได้เยอะ

เราขึ้นรถเมล์จากหน้าสนามบินและตั้งใจจะลงที่ Connaught Place พอขึ้นรถก็วางแผนกันว่าจะให้คนขับช่วยบอกเมื่อถึงป้าย แต่โชคดีมาก เจอคนไทย (หรืออาจจะเป็นคนอินเดียที่พูดไทยได้) เขาช่วยบอกเมื่อถึงจุดที่ต้องลง ทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นเยอะ

เดินเท้าฝ่ากลยุทธ์การหลอกล่อ

ทันทีที่ลงจากรถเมล์ เราก็เจอฝูงตุ๊กตุ๊ก (Autorickshaws) รุมล้อม เสนอให้พาไปส่ง แต่พอเช็กแผนที่แล้วเห็นว่าไม่ไกลมาก พวกเราเลยเลือกเดินแทน

ขณะเดินก็มีคนแปลกหน้าเข้ามาทักทาย ถามไถ่ว่าเรามาจากไหน จะไปไหน และสุดท้ายก็บอกว่า “เฮ้ ทางที่พวกยูเดินไปน่ะผิดแล้ว ต้องไปอีกด้านหนึ่ง เดี๋ยวจะพาไปเอง”

งานเข้าทันที! เราหยุดดูกันอีกครั้ง แผนที่ยังบอกว่าถูกต้อง เพื่อนที่มีประสบการณ์เดินทางมาที่นี่มาก่อนก็บอกว่า “อย่าไปเชื่อ” เพราะนี่เป็นกลวิธีของบางคนที่จงใจให้เราหลง เดินย้อนกลับไปมา จนสุดท้ายเหนื่อยและต้องยอมใช้บริการรถในราคาสูงลิบลิ่ว พวกเราเลยโบกมือปฏิเสธ แล้วเดินต่อไป

แดดร้อนเหงื่อไหลแต่ก็ยังมีแรงถ่ายรูปกันตลอดทาง ทั้งแยก ทั้งซอย มองป้ายอุณหภูมิขึ้น 47 องศา! แต่ก็ยังสนุกไปกับมัน

จุดหมายต่อไป: มะนาลี (Manali)

เย็นวันนั้น เราจะขึ้นรถบัสไปมะนาลี เมืองต้นทางสู่เทือกเขาสูง รถบัสจากเดลีไปมะนาลีมีหลายแบบ ทั้งมีแอร์ ไม่มีแอร์ แบบนั่ง หรือแบบนอน เส้นทางนี้ใช้เวลาราว 14 ชั่วโมง รถมักออกช่วง 18.00-19.00 น. ค่าโดยสารอยู่ที่ 900-1000 รูปี พวกเราเลือก A/C Deluxe Volvo ซึ่งควรจองล่วงหน้า สามารถหาข้อมูลและจองผ่านเว็บไซต์:

• HPTDC
• Raj National Express

ถึงแม้ว่าจะจองและเลือกที่นั่งแล้ว ก็ยังมีโอกาสโดนเปลี่ยนได้… ซึ่งเราเจอกับตัว! เพื่อนที่เป็นคนจองถึงกับเซ็ง เพราะอุตส่าห์รอจองที่นั่งดีๆ แต่สุดท้ายโดนย้ายไปนั่งแถวสาม แถวสี่แทน

แนะนำว่าควรเลือกที่นั่งด้านหน้า เพราะช่วยลดอาการเมารถ และไม่ต้องทนกลิ่นตัวคนอื่นในรถแน่นๆ (ข้อนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละคน) แต่ถ้าคนขับซิ่งมาก ก็อาจจะต้องช่วยลุ้น ช่วยเบรกกันเอง

รถติดยามเย็นและหนังอินเดีย

ช่วงแรกของการเดินทาง รถบัสค่อยๆ เคลื่อนตัวฝ่ารถติดออกจากเดลี วิถีชีวิตข้างทางน่าสนใจมาก ตั้งแต่ขอทาน คนทำงาน ไปจนถึงสภาพถนนหนทาง พอเริ่มมืดก็เคลิ้มจะหลับ แต่จู่ๆ บนรถเปิดหนังอินเดียเรื่อง Singh is King มาให้ดู ถึงจะฟังไม่ออกแต่ดูไปก็พอเข้าใจ

หนังอินเดียยังคงเอกลักษณ์เดิม เพลงประกอบที่ร้องไป วิ่งไป ฉากเต้นอลังการ ถึงแม้หลายคนจะบอกว่าเวอร์ แต่ก็เป็นเสน่ห์ของหนังที่ทำให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

แวะพักและมื้อค่ำแบบอินเดีย

รถแวะพักกลางทางช่วงดึก คนอินเดียมักกินข้าวเย็นค่อนข้างดึก ประมาณ 2-3 ทุ่ม พวกเราสั่งข้าวผัด หมี่ผัด มาแบ่งกัน เพราะอาหารที่นี่จานใหญ่ ถ้าสั่งคนละจานคงกินไม่หมดแน่ๆ

หลังจากอิ่มแล้วก็ขึ้นรถหลับๆ ตื่นๆ กันไป จนถึงช่วงเช้า รถจอดให้แวะล้างหน้า แปรงฟัน และแนะนำว่าห้ามพลาดลองชาหรือ “จัย” (Chai) แบบอินเดีย ซึ่งแต่ละพื้นที่มีรสชาติต่างกันไป

เช้าวันใหม่ที่มะนาลี

หลังจากนั่งรถอีกประมาณ 3 ชั่วโมง เราก็มาถึงท่ารถที่มะนาลีตอน 10 โมงเช้า ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางหายเป็นปลิดทิ้ง เมื่อเห็นวิวภูเขาสูงตระหง่านและอากาศเย็นสบาย ทริปของเรากำลังจะเริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริง!