Nim Journey

A Legend of Travel

กำแพงเมืองจีน (Great Wall : Badaling) สัมผัสความยิ่งใหญ่แห่งกำแพงประวัติศาสตร์
Posted in , ,

ถ้าจะพูดถึง “the must” ของการมาเยือนปักกิ่ง หรือแม้แต่การมาเมืองจีน ก็คงหนีไม่พ้น กำแพงเมืองจีน — หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ที่คนทั่วโลกใฝ่ฝันอยากมาเห็นกับตา สัมผัสกับเท้า และรู้สึกด้วยหัวใจ เพราะถ้าไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้แล้วล่ะก็… คงพูดได้ไม่เต็มปากว่า “ได้มาถึงเมืองจีนแล้ว”

สำหรับเรา…ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่ถึงกับได้ไปซ้ำถึงสองรอบ เพราะรอบแรกก็เหมือนเป็นบทเรียนเล็ก ๆ ที่ทำให้รอบสองกลายเป็นความทรงจำใหญ่ ๆ ที่ยังอุ่นใจทุกครั้งที่นึกถึง


วันแรก: บทเรียนกลางฝน

เช้าวันแรกหรือ จะเรียกว่า “สายวันแรก” ดีกว่า—เราดันตื่นสายแบบไม่ตั้งใจ แผนที่วางไว้เลยพังตั้งแต่เริ่ม โดนแท็กซี่รุมเร้า บางคันก็โก่งราคา บางคันพาอ้อม กว่าจะหาทางไปถึงป้ายรถบัสที่ถูกต้องก็เล่นเอาหงุดหงิด ใช้เวลาเดินทางอีกชั่วโมงกว่า ๆ ไปถึง Badaling ก็เกือบเย็น

แถมฟ้ายังไม่ปรานี…ฝนตกพรำ ๆ พอถึงประตูทางเข้ากำแพง เราก็ทำได้แค่ยืนมองประตูตรงหน้า หัวใจก็หวั่นไหวเบา ๆ ว่า “นี่เรามาถึงแล้วจริง ๆ เหรอ” แต่เพราะเวลาจำกัดและฝนที่ไม่หยุด เราเลยขอยืนดูลาดเลาไปก่อน บอกตัวเองว่า “ไม่เป็นไร…พรุ่งนี้มาใหม่ เรายังมีเวลา”

วันที่สอง: สัมผัสความยิ่งใหญ่แบบเต็มตา

วันรุ่งขึ้นเราเตรียมตัวดีกว่าเดิม ตื่นเช้าแบบมีเป้าหมาย พร้อมแผนที่แน่นอน การเดินทางไป Badaling ด้วยตัวเองนั้นง่ายกว่าที่คิด แค่นั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่สถานี Jishuitan (金水潭站) ออกทางประตู A หรือทางออกทิศตะวันออก เดินต่ออีกประมาณ 500 เมตรไปยัง ประตู Dongzhimen (东直门) ซึ่งเป็นจุดขึ้นรถบัสสาย 919 ที่มุ่งหน้าไป Badaling โดยตรง

ขอเตือนนิดนึง: ระหว่างทางจะมีป้ายรถเมล์กับป้ายสาย 919 หลอก ๆ อยู่บ้าง อย่าเผลอขึ้นผิด เพราะบางคันไม่ได้ไปถึง Badaling จริง ๆ ต้องไปขึ้นที่หน้าประตู Dongzhimen เท่านั้น

รถบัสสาย 919 วิ่งถี่มาก แทบทุก 5 นาที ตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น ค่าโดยสาร 12 หยวน วิ่งไกลถึงราว 90 กิโลเมตร ใช้เวลาราว ๆ 1 ชั่วโมงครึ่ง ถ้าคนเยอะก็ไม่ต้องตกใจ รถเต็มเมื่อไหร่ก็ออก รถคันใหม่ก็ตามมาติด ๆ

จำได้ว่าตอนขากลับวันแรก เราไม่รู้ระบบ เลยงงว่าทำไมพนักงานให้เราสองคนแซงคิวขึ้นไปก่อน สุดท้ายถึงเข้าใจว่า เพราะเรามาแยกกัน จึงแทรกเข้าไปนั่งในที่ว่างได้ง่าย ต่างจากกลุ่มใหญ่ที่อยากนั่งด้วยกันและรอคันถัดไป

ที่นั่งเบียด ๆ เหงื่อใครเป็นของใครก็แยกไม่ออกแล้วล่ะ เหม็นหน่อย…แต่โอเค ไม่ต้องรอ คิดว่าเราเหม็นเขา เขาก็คงเหม็นเราเหมือนกันนั่นแหละ

บนกำแพง…เหมือนเดินบนหลังมังกร

ทันทีที่เท้าแตะพื้น Badaling ใจมันเต้นแรงขึ้นอย่างบอกไม่ถูก ผู้คนมหาศาลหลั่งไหล ทั้งชาวจีนและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เสียงพูดคุยหลายภาษา ด้านหน้าเราคือ กำแพงหินโบราณ ที่ทอดตัวยาวพาดผ่านภูเขาสลับซับซ้อน ราวกับมังกรยักษ์ที่ขดตัวเลื้อยไปตามสันเขา

กำแพงเมืองจีน (长城 หรือ ฉางเฉิง) เป็นโครงการก่อสร้างขนาดมหึมาที่ใช้เวลาต่อเนื่องกันหลายพันปี เริ่มตั้งแต่สมัย ราชวงศ์ฉิน (ราว 221 ปีก่อนคริสตกาล) โดยจักรพรรดิ ฉินสื่อหวง สั่งรวมกำแพงของแคว้นต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อป้องกันการรุกรานจากเผ่าซยงหนู (Xiongnu) จากทิศเหนือ

ในยุค ราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368–1644) กำแพงได้รับการบูรณะอย่างจริงจัง ใช้หินและอิฐอย่างแข็งแรง และ “ด่าน Badaling” ที่เรายืนอยู่นี้ ถือเป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เพราะเป็นทางผ่านเข้าสู่กรุงปักกิ่ง

ที่นี่ยังเป็นสัญลักษณ์ทางจิตวิญญาณด้วย เพราะในปี ค.ศ. 1959 ประธานเหมาเจ๋อตุง ได้มาเยือนและกล่าววาทะที่กลายเป็นตำนานว่า

“不到长城非好汉”
“ผู้ใดไม่ถึงกำแพงเมืองจีน ยังไม่อาจเรียกว่าฮีโร่”

จากนั้นมา กำแพงเมืองจีนก็กลายเป็นจุดหมายในฝันของผู้คนทั่วโลก

เราเริ่มไต่ตามขั้นหินขึ้นไป บางช่วงเบียดกันแทบขยับไม่ได้ บางช่วงเงียบสงบจนได้ยินเสียงลมพัด อากาศดี แดดส่องอ่อน ๆ เหงื่อก็เริ่มซึม เรามองไกลออกไป… เห็นยอดเขาอีกลูกรอเราอยู่เบื้องหน้า บางจังหวะก็แอบสงสัยว่า ฮ่องเต้จะเคยเดินขึ้นมาจริงเหรอ หรือท่านนั่งเกี้ยวมา? แล้วคนที่แบกจะเหนื่อยขนาดไหน…

ยิ่งคิด ยิ่งรู้สึกทึ่ง ว่าคนโบราณสร้างสิ่งมหึมาแบบนี้ได้อย่างไร หินแต่ละก้อนไม่ใช่เบา ๆ แรงกายเท่านั้นที่ใช้ แต่แรงศรัทธาในคำสั่งจักรพรรดิ และบางครั้งก็แรงบังคับจากอำนาจ

แต่วันนี้…สิ่งที่เคยสร้างขึ้นเพื่อป้องกันศึก กลับกลายเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ของชาติ กลายเป็นที่สร้างรายได้ สร้างอัตลักษณ์ และสร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวจีนทั้งประเทศ

ทางลงแบบไม่ธรรมดา

หลังจากเดินจนถึงจุดสูงสุดที่เปิดให้เข้าชม เราค่อย ๆ เดินลงมาถึงชั้นที่ 4 แล้วเลือกนั่ง slide car ลงมา (ค่าบริการ 30 หยวน) สนุกดีเหมือนเด็กเล่นของใหม่ แป๊บเดียวก็ถึงพื้นเบื้องล่าง

ทางออกไม่ได้อยู่ตรงจุดที่เราขึ้นมา ต้องเดินกลับอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างทางมีแท็กซี่มาดัก บอกว่า “ไกลนะ ต้องนั่งรถไป” พร้อมเสนอค่ารถคนละ 30 หยวน…เราเกือบจะหลงกลแล้ว แต่เลือกเดินแทน และก็คิดไม่ผิด เพราะมันไม่ได้ไกลอย่างที่เขาบอกเลย

การไปเยือนกำแพงเมืองจีน โดยเฉพาะด่าน Badaling เป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด หากต้องการสัมผัสความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์จีน นอกจากจะได้เรียนรู้เรื่องราวในอดีตแล้ว ยังได้สัมผัสถึงความทุ่มเทและความสามารถของชาวจีนโบราณที่สามารถสร้างสิ่งก่อสร้างอันมหัศจรรย์นี้ขึ้นมา การเดินทางไปสองรอบของฉันเป็นบทเรียนที่ดีว่าการวางแผนที่รอบคอบช่วยให้ทริปสนุกและคุ้มค่ามากขึ้น หากมีโอกาสไปเยือนจีน นี่คือหนึ่งในจุดหมายที่ควรค่าแก่การเดินทางไปสัมผัสด้วยตนเองอย่างแท้จริง

Leave a Reply

เว็บนี้ใช้ Akismet เพื่อลดสแปม. เรียนรู้ว่าข้อมูลแสดงความเห็นของคุณถูกประมวลผลอย่างไร.

สมัครเป็นสมาชิก

Enter your email below to receive updates.