ลอนดอน… เมืองที่มอบความรู้สึกหลากหลายให้กับนักเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นฟ้าครึ้มหม่น หมอกฝนโปรยปราย หรือแสงแดดอุ่นที่โผล่มาทักทายเพียงชั่วครู่ เมืองนี้ช่างเหมือนมีอารมณ์ของตัวเอง และมันส่งผลต่อความรู้สึกของเราโดยไม่รู้ตัว
ระหว่างทริปที่ลอนดอน ฉันเจอฟ้าครึ้มฝนแทบทุกวัน กว่าจะได้เห็นแสงแดดแทรกผ่านเมฆก็ต้องรอคอยด้วยความอดทน แถมยังต้องพกของเต็มกระเป๋าเหมือนคนบ้าหอบฟาง—กล้อง ร่ม ของจิปาถะสารพัด แต่ถึงจะลำบากแค่ไหน การได้ออกไปสำรวจเมืองก็ยังเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นเสมอ
อารมณ์ที่เปลี่ยนไปตามสภาพอากาศ
ลอนดอนเป็นเมืองที่อากาศสามารถกำหนดอารมณ์ของเราได้โดยไม่รู้ตัว วันที่ฝนตกพรำๆ ท้องฟ้าหม่นหมองให้ความรู้สึกเหงาและเปล่าเปลี่ยวกว่าการอยู่บ้านเสียอีก แต่เมื่อวันใดที่แดดออก ท้องฟ้าสว่างสดใส เมืองทั้งเมืองก็เปลี่ยนเป็นอีกโลกหนึ่ง—เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและความสนุกสนาน
ใบหน้าของลอนดอน—เหมือนอากาศที่เดายาก
เช่นเดียวกับอากาศที่แปรปรวน ใบหน้าของผู้คนในลอนดอนก็ดูจะมีเสน่ห์ในความคาดเดาไม่ได้ บางคนเคร่งขรึม จริงจัง บางคนยิ้มแย้มเป็นกันเอง จนบางครั้งก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ความรู้สึกที่เรามีต่อลอนดอนนั้นเป็นเพราะเมืองนี้จริงๆ หรือเป็นเพราะมุมมองของเราเองกันแน่
ความทรงจำที่ย้อนกลับมา
เวลาผ่านไปเกือบปี ความทรงจำเกี่ยวกับลอนดอนยังแจ่มชัด แม้ในตอนนั้นฉันจะไม่ได้จดบันทึกอะไรมากมาย ตอนนี้จึงทำได้แค่เปิดดูภาพถ่าย แล้วปล่อยให้ความทรงจำย้อนกลับมาอีกครั้ง—เรื่องราวของเมืองที่มีเสน่ห์ในทุกสภาพอากาศ เมืองที่แม้จะครึ้มฟ้าครึ้มฝน แต่ก็มีแสงอาทิตย์อันอบอุ่นซ่อนอยู่เสมอ
ลอนดอน… จุดหมายที่คะแนนพาไป
การสะสมแต้มบัตรเครดิตพาฉันและน้องสาวได้ออกเดินทางอีกครั้ง คราวนี้คือยุโรป! รอบนี้คะแนนพาเราไปลงที่ลอนดอน จริง ๆ แล้วลอนดอนไม่ได้อยู่ในลิสต์ “The Must” ของฉันหรอก แต่เมื่อคะแนนพามา ญี่ปุ่นก็ไปมาแล้วสองรอบ ลอนดอนก็ลอนดอน! ไหน ๆ ก็ยังไม่เคยไปนี่นา
วางแผนเที่ยวอังกฤษครั้งแรก
แผนของเราคือเที่ยวลอนดอนแล้วออกไปเมืองรอบ ๆ อย่าง Windsor, Bath, Cotswolds และแน่นอนว่าต้องไปชมความลึกลับของ Stonehenge ทริปนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน เหมาะสำหรับมือใหม่หัดเที่ยวอังกฤษ เราจัดการจองที่พักและซื้อตั๋วรถเมล์ รถไฟอย่างรอบคอบ ค้นหาข้อมูลจากเว็บต่าง ๆ เพื่อให้ค่าใช้จ่ายถูกที่สุด ที่เหลือคือทุ่มให้กับของกินอร่อย ๆ เรื่องกินไม่เคยประหยัดอยู่แล้ว!
ลอนดอนวันแรก: จาก Bayswater ถึง St. Paul’s Cathedral
เราเดินทางถึงลอนดอนแต่เช้าตรู่ รีบซื้อตั๋วเดินทางแบบ 7 วัน ที่รวมค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ได้แบบไม่ต้องจ่ายเพิ่ม จากสนามบินตรงเข้าเมืองอย่างง่ายดาย ที่พักของเราคือ Hyde Park Inn Hostel ในย่าน Bayswater ซึ่งอยู่ใกล้ร้านเป็ดย่าง Four Seasons อันโด่งดัง
บรรยากาศของ Hostel ทำเอาฉันประหลาดใจเล็กน้อย เพราะส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย น้องสาวเพิ่งเคยนอน Hostel ครั้งแรก ไม่รู้จะรู้สึกยังไง โชคดีที่มีเพื่อนร่วมห้องชาวเกาหลีเข้ามาทักทาย ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น
สถานที่แรกของวันคือ St. Paul’s Cathedral มหาวิหารกลางกรุงลอนดอน เราปีนขึ้นไปถึงยอดโดมเพื่อชมวิวเมืองจากมุมสูง เห็น Tower Bridge, Tate Modern และแม่น้ำเทมส์ที่ทอดยาวเชื่อมสองฝั่งเมือง ทุกอย่างเป็นระเบียบสะอาดสะอ้านจนรู้สึกแปลกใจ
เราได้ลอง Whispering Gallery ที่ว่ากันว่า ถ้ากระซิบที่จุดหนึ่ง เสียงจะสะท้อนไปถึงอีกฝั่งของโดม แต่พยายามแล้วก็ไม่ได้ผล จนทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าทำผิดตรงไหน
ข้ามฝั่งมาที่ Tate Modern พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยที่จัดแสดงงานศิลปะหลากหลาย บางงานเข้าใจง่าย บางงานก็ดูลึกลับแต่ก็น่าสนใจ ฉันชอบเข้า Museum ตั้งแต่ไปปารีส การได้เห็นพัฒนาการของศิลปะมันสนุกดี ถ้าดูเยอะ ๆ อาจจะเริ่มจับแนวทางออกว่างานไหนเป็นของใครก็ได้
ค่ำวันแรก เราเดินเล่นริมแม่น้ำเทมส์ไปจนถึง Tower Bridge โชคดีที่ได้เห็นสะพานเปิดให้เรือผ่าน เป็นภาพที่ดูยิ่งใหญ่และอลังการจนต้องหยิบกล้องมาถ่ายเก็บไว้
Windsor Castle: พระราชวังและฝนที่เป็นใจ
เช้าวันรุ่งขึ้น เรานั่งรถไฟออกจากลอนดอนไป Windsor Castle แต่ด้วยความเพลิดเพลินกับร้านเบเกอรี่ที่สถานี เราพลาดรถไฟไปเพียง 1 นาที! ต้องรอรอบถัดไปแบบจดจ่อ
ถึงแม้จะออกมาไกลจากลอนดอน แต่ฟ้าก็ยังครึ้มและฝนตกเป็นระยะ อย่างที่อังกฤษเป็นเสมอ การตรวจค้นก่อนเข้าไปชมพระราชวังเข้มงวดมาก เนื่องจากช่วงนั้นมีกระแสข่าวการก่อวินาศกรรม แต่เมื่อเข้าไปด้านใน บรรยากาศกลับสงบและงดงาม โดยเฉพาะห้องแสดงตุ๊กตาที่เต็มไปด้วยรายละเอียด ทำให้เด็ก ๆ และฉันตื่นตาตื่นใจไปตาม ๆ กัน
บริเวณรอบพระราชวังมีร้านกาแฟและร้านขายของที่ระลึก เราบังเอิญเห็นคู่บ่าวสาวกำลังจัดพิธีวิวาห์ที่โบสถ์ใกล้ ๆ เป็นภาพที่โรแมนติกมาก
ช่วงเย็นน้องสาวเริ่มไม่สบาย ฉันเลยออกไปเดินเล่นคนเดียวที่ Notting Hill แต่ตลาดปิดไปแล้ว แถมบรรยากาศค่อนข้างเงียบ มีแต่กลุ่มวัยรุ่นเดินอยู่เป็นกลุ่ม ๆ เลยเปลี่ยนใจเดินกลับมาแถวริมแม่น้ำเทมส์ แทน
บรรยากาศของย่านใจกลางเมืองช่วงเย็นเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ผับและบาร์เต็มไปด้วยคนทำงานที่มานั่งพักผ่อน เห็นแล้วอดคิดไม่ได้ว่าถ้ามีเพื่อนมาเที่ยวด้วย คงสนุกกว่านี้
British Museum และการเดินเล่นไร้จุดหมายที่แสนสนุก
British Museum เป็นอีกที่ที่ห้ามพลาด เข้าชมฟรีและเต็มไปด้วยสมบัติล้ำค่าจากทั่วโลก ใช้เวลา 2 วันก็ยังดูไม่ครบ ฉันอดคิดไม่ได้ว่าทำไมของล้ำค่าของประเทศอื่นถึงมาอยู่ที่นี่ ในขณะที่ของในแผ่นดินตัวเองกลับเป็นของปลอม
เรายังแวะไป Platform 9¾ ที่ King’ s Cross ตามรอย Harry Potter หวังว่าจะทะลุผ่านกำแพงไปสู่โลกเวทมนตร์ แต่สุดท้ายก็เป็นแค่จุดถ่ายรูปที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว
ช่วงบ่ายเราขึ้น London Eye ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ที่ให้มุมมองของลอนดอนแบบพาโนรามา โชคดีที่วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส ภาพที่เห็นจากด้านบนสวยเกินคำบรรยาย
บรรยากาศริมแม่น้ำเทมส์ทำให้ฉันตกหลุมรักเข้าเต็มเปา นักดนตรีเปิดหมวก การแสดงกล และบรรยากาศสบาย ๆ ของผู้คนที่มานั่งพักผ่อน มันคือเสน่ห์ของลอนดอนที่ไม่มีวันเบื่อ
ปิดท้ายด้วย Tour de France และคำสัญญาว่าจะกลับมาอีก
ทริปของเราสิ้นสุดลงในวันที่ลอนดอนจัดพิธีเปิด Tour de France เมืองทั้งเมืองปิดถนนต้อนรับนักปั่นชื่อดัง เราได้เห็นผู้ว่าการลอนดอนและคนดังหลายคน เป็นบรรยากาศที่คึกคักและน่าประทับใจ
ก่อนกลับไทย ฉันเดินเล่นริมแม่น้ำเทมส์อีกครั้ง ท้องฟ้าสดใส ริมฝั่งเต็มไปด้วยผู้คนที่มาพักผ่อน ฉันเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว นี่คงเป็นเหตุผลที่ผู้คนตกหลุมรักลอนดอน และฉันเองก็คงต้องกลับมาอีกครั้งแน่นอน






Leave a Reply